ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ลูกจ้างสาวร้องนายจ้างโหดทารุณ สาดน้ำร้อน-เผาอวัยวะเพศ

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีลูกจ้างร้านอาหารชื่อดังย่านพุทธมลฑลสาย 1 อ้างว่าถูกนายจ้างที่เป็นผู้หญิงทำร้ายร่างกายเยี่ยงสัตว์นานนับปี จนเกือบพิการ เธอทนไม่ไหวจึงตัดสินใจปีนหลังคาร้าน หลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือ

ลูกจ้างสาวร้องนายจ้างโหดทารุณ สาดน้ำร้อน-เผาอวัยวะเพศ
เมื่อวานนี้นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมพา นางสาวแพรว (นามสมมติ) ไปขอความช่วยเหลือกับพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีฯ ให้ดำเนินคดีกับนายจ้างรายหนึ่งที่ทรมาณร่างกายและจิตใจเธอ ทั้งสาดน้ำร้อนใส่ ถูกสั่งแลบลิ้นแล้วใช้ไฟเผาปาก ถูกสายไฟรัดคอจนสลบ เตะให้ฟื้นแล้วรัดคอซ้ำ ใช้มีดฟันปากและตามร่างกาย จุดไฟเผาอวัยวะเพศและร่างกาย จนต้องหนีตายปีนฝ้าเพดานมาขอความช่วยเหลือจากบ้านข้าง ๆ นางสาวแพรว เล่าว่าเธอทำงานกับนายจ้างคนนี้ตั้งแต่อายุ 16 ปี ต่อมาตั้งครรภ์กับสามีอายุ 19 ปี แต่สามีถูกนายจ้างแจ้งจับข้อหาพรากผู้เยาว์ หลังเธอคลอดลูก นายจ้างได้ออกเงินค่าคลอดลูกให้ 10,000 บาท แต่ให้ทำงานในร้านโดยไม่จ่ายค่าจ้าง นายจ้างอ้างว่าเธอต้องทำงานชดใช้หนี้ค่าคลอดลูก อีกทั้งยังออกอุบายให้เอาลูกไปฝากไว้ที่มูลนิธิแห่งหนึ่งด้วย

ต่อมาพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุ นายจ้างช่วยค่ารักษาพยาบาล 10,000 บาท ก็ถูกอ้างเป็นหนี้ที่ต้องชดใช้อีก ตั้งแต่ทำงานมาเธอเพิ่งได้เงินเพียง 50 บาท เป็นค่าแต๊ะเอียช่วงตรุษจีนปีที่แล้ว นางสาวแพรวบอกว่า นายจ้างทำร้ายร่างกายเธออยากหนักทั้งเคยใช้เชือกรัดคอจนเกือบเสียชีวิต และใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลมาราดแล้วจุดไฟเผา

ซึ่งล่าสุดที่ตัดสินใจหนี เพราะเห็นนายจ้างเตรียมคีมเป็นอุปกรณ์ทรมาน ด้วยความหวาดกลัว จึงปีนฝ้าเพดานไปขอความช่วยเหลือจากบ้านข้างๆ

ด้าน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ระบุว่าจะมีการสอบปากคำ นางสาวแพรวและผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบว่า มีการคุกคามจริง จะดำเนินการกับ ผู้กระทำผิดทั้งหมด

นายจ้างโต้ไม่ได้ทำร้าย แฉกลับลูกจ้างติดยา-ขี้ขโมย
แต่เมื่อทีมข่าวเดินทางไปพบเจ้าของร้าน กลับพบเป็นหนังคนละม้วน โดยนางสาวแอน เจ้าของร้านระบุว่า นางสาวแพรวมักมีพฤติกรรมลักขโมย ตนเคยให้ออก และรับเข้ามาใหม่เพราะอ้างว่าถูกผู้ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์  ตนดูแลตั้งแต่ฝากครรภ์จนคลอดลูก แต่เจ้าหน้าที่ประเมินว่า นางสาวแพรวไม่สามารถดูแลเด็กได้ จึงส่งเรื่องให้มูลนิธิแห่งหนึ่งรับเด็กไปดูแล ไม่ใช่เพราะตนส่งไปอย่างที่ นางสาวแพรวอ้าง

จากนั้นพบปัญหา นางสาวแพรวใช้ยาเสพติดมักนัดพบผู้ชายนอกร้านตอนกลางคืน และขโมยสิ่งของภายในร้าน พอจับได้และได้ตักเตือนไป นางสาวแพรวก็ไหว้ขอโทษไม่ให้เอาเรื่อง โดยมีคลิปขณะที่ไหว้ขอโทษครั้งล่าสุด

เจ้าของร้านบอกว่า เมื่อต้นปีตนให้ นางสาวแพรวมาพักในร้าน แต่กลับขโมยของ รวมทั้งพาผู้ชายเข้ามาในร้าน พอถูกจับได้ก็อ้างกับคนดูแลร้านว่า "ผู้ชายคนนั้นเป็นวิญญาณ ไม่ใช่คนจริง ๆ หรอก"

นายจ้างรายนี้อ้างว่า เคยจะแจ้งความเอาผิด แต่นางสาวแพรววิดีโอคอลมาทำร้ายร่างกายตัวเองให้ดู เพื่อไม่ให้ไล่ออกหรือดำเนินคดี ส่วนบาดแผล นางสาวแพรวอ้างว่าถูกแก๊งหลอกเปิดบัญชีม้าทำร้ายร่างกายมา เจ้าของร้านยืนยันว่า จ่ายเงินค่าจ้างปกติ และไม่เคยทำร้ายร่างกายอย่างที่ นางสาวแพรวอ้าง

ส่วนกรณีที่ปีนฝ้าเพดานหลบหนี มาจากเหตุที่ตนจะแจ้งความเรื่องลักขโมยของและแอบถอดเมโมรี่การ์ดกล้องวงจรปิดจนกล้องในร้านเสียทั้งหมด แต่ระหว่างที่ตนไปทำงานหน้าร้าน นางสาวแพรวกลับปีนฝ้าเพดานหนีข้ามไปขอความช่วยเหลือร้านข้าง ๆ

ต่อมา นางสาวปอน อดีตเพื่อนร่วมงานและเคยพักห้องเดียวกันกับนางสาวแพรว ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ของอดีตนายจ้างว่า นางสาวแพรวมีนิสัยชอบโกหก ขอยืนยันว่าหลังคลอดลูก นางสาวแพรวถูกประเมินว่าไร้ความสามารถในการเลี้ยงดู ไม่ใช่นายจ้างส่งไปมูลนิธิ ชอบออกไปข้างนอกเวลากลางคืน ชอบลักเล็กขโมยน้อย ยืนยันว่าไม่เคยเห็นนายจ้างทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องการจ้างงานยืนยันว่าอดีตนายจ้างจ่ายเงินค่าจ้างตามปกติ ตรงเวลา และมีการส่งประกันสังคมเหมือนระบบการว่าจ้างงานทั่วไป

ซึ่งขณะนี้ตำรวจจากสน.ภาษีเจริญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บพยานหลักฐานก่อนจะสรุปสำนวนอีกครั้ง

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark