คืบหน้าสถานการณ์สู้รบ อิสราเอล-ฮามาส

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ระบบอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในฉนวนกาซาเริ่มทยอยกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังถูกตัดขาดเกือบสิ้นเชิงเมื่อวานนี้ ขณะที่ อิสราเอลเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซาอย่างหนัก ระบุกำลังเข้าสู่เฟสที่ 2 ของการโจมตี

บริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลักของปาเลสไตน์เปิดเผยว่า ขณะนี้ระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในฉนวนกาซาเริ่มทยอยกลับมาใช้งานได้อีกครั้งแล้ว หลังวานนี้ระบบอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ในฉนวนกาซาเกือบทั้งหมดถูกตัดขาด ขณะที่อิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดโจมตี รวมทั้งมีการส่งกองกำลังและรถถังเข้าโจมตีในเขตฉนวนกาซา ซึ่งผู้นำกองทัพอิสราเอลออกมาส่งสัญญาณว่าได้เตรียมพร้อมขยายการโจมตีภาคพื้นดิน

ขณะที่ วานนี้ นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เตือนว่าอิสราเอลคาดว่าการสู้รบกับกลุ่มฮามาสจะเป็นสงครามที่ "ยุ่งยากและยาวนาน" และอิสราเอลจะเป็นฝ่ายชนะ และปฏิบัติการภาคพื้นดินของกองทัพอิสราเอลได้เข้าสู่ระยะที่ 2 ของสงคราม ซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนที่จะทำลายความสามารถทางการทหารและผู้นำกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก และการนำตัวประกันกลับบ้าน พร้อมกันนี้ผู้นำอิสราเอลได้เตือนให้ประชาชนในฉนวนกาซาเดินทางลงไปทางใต้ พร้อมเรียกเมืองกาซาซีตีว่า "สนามรบ" แต่ฝ่ายปาเลสไตน์แย้งว่าไม่มีที่ไหนปลอดภัย และอิสราเอลยังคงทิ้งระเบิดใส่ตอนใต้ของฉนวนกาซาในจุดที่มีประชากรหนาแน่น

ด้านประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส (Mahmoud Abbas) ของปาเลสไตน์ ซึ่งปกครองเขตเวสต์แบงก์ ออกแถลงการณ์ว่า ขณะนี้ประชาชนของเราในฉนวนกาซากำลังเผชิญกับสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และการสังหารหมู่ของกองกำลังอิสราเอลท่ามกลางสายตาชาวโลก

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา มีชาวปาเลสไตน์ 3 คน ในเขตเวสต์แบงก์ เสียชีวิตจากการบุกปฏิบัติการของกองกำลังอิสราเอล โดยผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้ทำการยิงตอบโต้ใส่กลุ่มเยาวชนที่ทำการโยนหินใส่เจ้าหน้าที่ของอิสราเอล

ทั้งนี้ จากการสู้รบอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วกว่า 8,000 คน และในอิสราเอลอีก 1,400 คน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ระบุว่า จากที่ในการประชุมสหประชาชาติได้มีการแสดงคลิปภาพของเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด โดยอ้างว่าเป็นคนไทยนั้น ภาพการสังหารดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะต่อประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่ต่อคนทั่วโลกด้วย

กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นรายงานคลิปภาพของเหยื่อ และไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพที่ไม่คำนึงถึงและไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว พร้อมประณามการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะกระทำต่อคนชาติใด โดยฝ่ายใด และด้วยเหตุผลใดก็ตาม และขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกสัญชาติทุกคนในทันที