คอลัมน์หมายเลข 7 : ส่องนโยบาย มท. สั่งท้องถิ่นทำโครงการประปาสะอาด ใช้บัญชีนวัตกรรม

ข่าวภาคค่ำ - วันนี้ คอลัมน์หมายเลข 7 ชวนสอดส่องนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเปิดโอกาสให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยื่นเสนอขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โดยใช้บัญชีนวัตกรรม ติดตามรายละเอียดกับคุณสุธาทิพย์ ผาสุข

เอกสารแบบสรุปราคางานก่อสร้างและติดตั้งถังกักเก็บน้ำขนาด 1,000 ลูกบาศก์เมตร ด้วยระบบสูบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบุให้เห็นถึงรายการงานค่าวัสดุและค่าแรงงาน ที่จะต้องใช้ในการดำเนินโครงการส่วนงานก่อสร้างโครงสร้างและระบบสูบน้ำและงานครุภัณฑ์ วงเงินรวม 9,723,000 บาท ซึ่งหากมองผิวเผิน นี่อาจเหมือนเป็นรายการตารางงานในการจัดโครงการรัฐทั่วไป

แต่เมื่อตรวจดูในรายละเอียดบัญชีแสดงรายการปริมาณวัสดุราคา พบว่า การจัดทำโครงการนี้ มีข้อน่าสังเกต เนื่องจากถูกกำหนดให้ต้องใช้สินค้าที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม 2 รายการ อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเอื้อประโยชน์ ผูกขาดทางการแข่งขัน

โดยข้อสังเกตนี้ สอดคล้องกับผลการศึกษา และข้อเสนอแนะจาก ป.ป.ช. เกี่ยวกับประเด็นความเสี่ยงการใช้บัญชีนวัตกรรมไทย ที่อาจนำไปซึ่งการเอื้อประโยชน์ ผูกขาดทางการแข่งขัน

ไม่ต่างจากมุมมองของอดีตผู้ว่าการตรวจแผ่นดิน ผู้มีประสบการณ์ตรวจสอบการใช้งบประมาณ มองว่า การกำหนดใช้วัสดุบัญชีนวัตกรรมไทย ที่เกิดขึ้นโดยหลักการที่ดี ส่งเสริมให้มีการคิดค้น แต่หากเปรียบเทียบกับหลายโครงการที่ใช้บัญชีนวัตกรรม ซึ่งสามารถจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษหรือเฉพาะเจาะจงได้ โดยไม่ต้องมีการแข่งขันราคาหรือแข่งขันเทคนิค ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีกลุ่มคนที่อาศัยช่องโหว่ของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ สมทบร่วมมือกันเสาะแสวงหารายได้จากจุดนี้ โดยไม่คำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้งาน

สำหรับบัญชีนวัตกรรม 2 รายการ ที่ตรวจพบ ประกอบด้วย เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า Inverter สำหรับปั๊มหอยโข่ง ราคาชุดละ 55,000 บาท และเสาไฟแบบรอกสลิงหมุนยก พร้อมโคมไฟถนนแอลอีดีประกอบแบตเตอรี่และอุปกรณ์การประจุแบตเตอรี่ในตัวแบบใช้พลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์แยกส่วน ราคาชุดละ 128,972 บาท