ประชาชนได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซา เป็นครั้งแรก

ประเด็นเด็ด 7 สี - ประชาชนได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาได้เป็นครั้งแรก แม้การสู้รบระหว่างอิราเอล-ฮามาสจะคงปะทุอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้นำกลุ่มฮามาสกล่าวว่าการสังหารหมู่จำเป็นต้องยุติลง

สื่ออียิปต์ และแหล่งข่าวที่ชายแดน รายงานว่า ชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง และผู้บาดเจ็บสาหัสกลุ่มแรกได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาเข้าสู่อียิปต์ ผ่านทางจุดผ่านแดนราฟาห์แล้วในวันนี้ ภายใต้ข้อตกลงที่มีกาตาร์เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยระหว่างอียิปต์ อิสราเอล และฮามาส 

ทั้งนี้คาดว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ 81 คน และผู้ถือหนังสือเดินทางต่างประเทศราว 500 คน จะได้รับอนุญาตให้ออกจากฉนวนกาซาได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

การอพยพเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นองเลือดในฉนวนกาซา ที่กองกำลังอิสราเอลโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยจาบาเลียอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งเป็นค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซา และมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 120,000 คน และจุดชนวนการประณามอย่างกว้างขวาง  

อย่างไรก็ตาม อิสราเอล กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวได้สังหารผู้บัญชาการอาวุโสของกลุ่มฮามาส และนักรบคนอื่น ๆ อีกหลายคน ขณะที่เมื่อวานนี้กองทัพอิสราเอลก็สูญเสียทหาร 11 นาย ในการสู้รบภาคพื้นดิน ซึ่งถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพอิสราเอลใน 1 วัน นับตั้งสงครามได้เริ่มต้นขึ้น

ขณะเดียวกัน นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ปาเลสไตน์ ฮามาส กล่าวว่าตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกควบคุมตัวในฉนวนกาซาก็ต้องเผชิญกับความตาย และการทำลายล้างแบบเดียวกับที่ชาวปาเลสไตน์เผชิญ ทั้งนี้ กลุ่มฮามาสบอกกับผู้ไกล่เกลี่ยว่าการสังหารหมู่จำเป็นต้องยุติลง และเรียกร้องให้ประชาชนออกมาประท้วงต่อไป โดยเฉพาะในประเทศตะวันตก เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อผู้มีอำนาจ

ทั้งนี้ ชาวปาเลสไตน์กล่าวว่ากองทัพอิสราเอลทิ้งระเบิด และโจมตีฉนวนกาซา ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศตลอดทั้งคืน ส่งผลให้พลเรือนมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นด้วย จนถึงขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขฉนวนกาซา ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 8,796 คน ถูกสังหารในการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล เพิ่มขึ้น 271 คน จากตัวเลขเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.)