ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สรุปแล้ว ตา-ยาย ถูกวางยาฮุบสมบัติ ลั่นตัดขาด พ่อ-แม่-ลูก

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหน้าที่เปิดเผยผลตรวจสอบเส้นผมของ ตา-ยาย ที่อ้างว่าถูกลูกสาววางยา เพื่อฮุบสมบัติ 500 ล้านบาท ล่าสุดพบสารกล่อมประสาทในเส้นผมของยาย ที่ส่งผลให้มีอาการเบลอ หากกินมากอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

เป็นคดีปริศนาชวนน่าตกใจ หลังตากับยายร้องขอความช่วยเหลือเพจสายไหมต้องรอด อ้างว่าถูกลูกสาวคนเล็กวางยา เพื่อฮุบสมบัติกว่า 500 ล้านบาท ผ่านการโอนทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งประเด็นนี้ได้มีการออกรายการถกไม่เถียง เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาสองตายายมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อฟังผลการตรวจเส้นผมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

โดยผลตรวจเส้นผมของคุณตา ไม่พบสารหรือวัตถุออกฤทธิ์แต่อย่างใด ส่วนเส้นผมคุณยาย พบสารออกฤทธิ์ ส่งผลต่อการกล่อมประสาท แต่ขอสงวนชื่อยาไว้ก่อน โดยเป็นยาที่วัยรุ่นชอบนำไปผสมเป็นยาเสพติดประเภท 4×100 ทีมนักวิทยาศาสตร์ ประจำสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า เส้นผมของคุณยายที่ส่งตรวจ มีความยาว 13.7 เซนติเมตร สามารถตรวจย้อนหลังได้ถึงเดือน สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่คุณยายอยู่กับลูกสาวคนเล็ก มีสารจากยาประมาณ 6-7 ตัว โดยตัวที่เพิ่มมา 2-3 ชนิด เป็นยารักษาอาการแก้ปวดชนิดรุนแรง

โดยยาตัวนี้ ทางการแพทย์ถือว่าเป็นยาที่ต้องควบคุมอย่างยิ่ง จะไม่มีการจ่ายรักษาเป็นการทั่วไป ยิ่งอาการป่วยของตายาย ไม่สามารถกินร่วมกับยาตัวอื่นได้ เพราะยากลุ่มนี้มีผลต่อสารสื่อประสาท และมีปฏิกิริยาร่วมกับยารักษาทั่วไป ส่งผลต่อระบบประสาท และทำลายสมอง ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ตายายมีอาการเบลอ หากกินมากเกินไป อาจเสียชีวิตได้ แต่ช่วงหลังระบบประสาทดีขึ้น เพราะไม่มียาตัวนี้ ฉะนั้นตำรวจต้องไปสืบสวนว่า มีความจำเป็นอย่างไร ที่ต้องให้ตายายกินยาตัวนี้ 

ด้านตากับยาย กล่าวว่า ปกติลูกสาวคนเล็ก จะเป็นคนจัดยามาให้กิน โดยไม่ทราบว่า ยาที่กินมีอะไรบ้าง โดยจะกินยาเหล่านั้นทุกวัน วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2-3 เม็ด และไม่ใช่ยาที่หมอจัดให้ เมื่อกินแล้วก็จะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ตาค้าง เบลอ ๆ มึน ๆ ส่วนตัวรู้สึกเสียใจอย่างมาก ไม่คิดว่าลูกสาวคนเล็กจะทำกับพ่อและแม่ได้ หลังจากนี้หากลูกสาวมาขอขมาลาโทษ ก็จะไม่ให้อภัย พร้อมตัดขาดความเป็นพ่อแม่ลูก และจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านนางสาวอาภาพัสร์ หลานสาวของตากับยาย เชื่อว่า คนที่เอายามาให้ตายายกิน น่าจะมีความรู้เรื่องยาพอสมควร เพื่อให้ออกฤทธิ์กล่อมประสาท ส่วนเรื่องการดำเนินคดีหลังจากนี้ จะต้องไปปรึกษาทนายความ และตำรวจต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark