ศึกรถยก! ยิงสนั่นหน้าป้อมตำรวจจราจร เจ็บ 1 คน
เช้านี้ที่หมอชิต - ไปชมศึกรถยก ขัดแย้งกันจนลั่นกระสุนใส่กันมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย แต่ที่น่าตระหนกคือก่อเหตุอย่างอุกอาจหน้าป้อมตำรวจจราจร
เหตุเกิดหน้าป้อมตำรวจจราจรแยกรัชดา-ตลาดพลู เขต ธนบุรี กรุงเทพมหานคร คนถูกยิงบาดเจ็บชื่อนายกิตติศักดิ์ ธรรมธรสุคนธ์ อายุ 33 ปี ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 กระสุนเข้าแผ่นหลัง 3 นัด ข้อมือ 1 นัด มีเลือดไหลออกมาก เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ส่วนที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนจำนวน 2 ปลอก
นายนรงค์ จีรสินธุ์โวภณ อาสาสมัครร่วมกตัญญ ที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า ก่อนเกิดเหตุมีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ ระหว่างตนคุยกับคนเจ็บอยู่ เห็นนายกิตติศักดิ์คนขับรถยกของมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินคุยกับลูกน้องของนายรุ่งเจ้าของรถยกอีกเจ้า ก่อนมีเสียงปืนดัง 3-4 นัด และผู้ก่อเหตุวิ่งไปทางสถานีบีทีเอสตลาดพลู
ต่อมานาย สมบูรณ์ สวนส้มจีน ลูกค้ารถยกเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ บอกว่ามือปืนเป็นลูกน้องกิจการรถยกที่ตนจ้างวานให้มายกรถเข้าบริษัท ซึ่งตนทราบทีหลังว่าเจ้าของกิจการรถยกฝั่งมือปืนกับคนเจ็บเคยทำงานด้วยกันมาก่อน และขัดแย้งกันเรื่องรถยกมาตลอด และคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็บอกว่า คนเจ็บมาขวางรถยกคันที่ตนว่าจ้าง ก่อนใช้ปืนยิง
ส่วนพี่สาวคนเจ็บ เล่าว่า น้องชายขับรถยกให้มูลนิธิร่วมกตัญญู ส่วนฝั่งผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าของรถยกอิสระชื่อนายรุ่ง ทั้งคู่เคยเป็นอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งด้วยกัน แต่ไปมีเรื่องคดีความจนนายรุ่งติดคุก แต่น้องชายไม่ติด ก็คอยช่วยเหลือนายรุ่งอยู่นอกเรือนจำตลอด เพราะน้องชายก็นับถือนายรุ่งเป็นพ่อ ส่วนพ่อของตนเคยออกรถยกคันหนึ่งให้นายรุ่ง เพื่อที่จะได้มีอาชีพหลังออกจากเรือนจำ แต่พอนายรุ่งออกจากเรือนจำ ทางบ้านของตนกลับรู้ว่าที่ผ่านมาโดนนายรุ่งหลอกลวงมาตลอด แถมมีเรื่องบาดหมางใจกันเรื่องธุรกิจรถยก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคุยกันให้แบ่งเวรกันแบบวันเว้นวัน แต่ฝ่ายนายรุ่งไม่เคยทำตามข้อตกลง
ต่อมาจากการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายสมพงษ์ คุ้มเปรม เป็นลูกน้องของนายรุ่ง ซึ่งนายรุ่งจ้างให้มาขับรถยกส่วนตัวแบบไม่มีสังกัด ส่วนนายกิตติศักดิ์ขับรถยกให้มูลนิธิร่วมกตัญญู แต่สองฝ่ายมีปัญหากันเรื่องการแบ่งวันขับรถยกมาโดยตลอด แม้เคยตกลงให้วิ่งสลับวันกัน แต่ทางนายรุ่งไม่ยินยอม ต้องการวิ่งทุกวัน สองฝ่ายกระทบกระทั่งกันบ่อยครั้งกระทั่งเกิดเหตุในวันนี้
เบื้องต้นตำรวจไล่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อเร่งติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
