ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สาวตัดพ้อชาติไหนหมด ส่งค่าบ้านหักต้น 5 บาท ดอกเบี้ยหมื่นกว่า

เช้านี้ที่หมอชิต - สาวโพสต์ตัดพ้อหลังผ่อนส่งค่าบ้านหมื่นกว่าบาท หักเงินต้นไป 5 บาท 50 สตางค์ ที่เหลือเป็นดอกเบี้ย คนแห่แชร์เพียบ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินชี้แบบนี้ต้องเตรียมตัวรีไฟแนนซ์ แนะควรตรวจสอบสถานะความพร้อมด้านการเงินของตนเองก่อนซื้อบ้าน
 
สาวตัดพ้อชาติไหนหมด ส่งค่าบ้านหักต้น 5 บาท ดอกเบี้ยหมื่นกว่า
เป็นเรื่องที่ถูกแชร์ต่อในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ภาพสะลิปโอนเงินจ่ายค่าผ่อนบ้าน โดยยอดที่ชำระไปทั้งหมด 10,900 บาท แต่ตัดเงินต้นไปแค่ 5 บาท 50 สตางค์ ที่เหลือหักค่าดอกเบี้ยไปถึง 10,894 บาท 50 สตางค์ ยอดเงินต้นยังคงเหลืออีก 2,140,425.87 บาท โดยผู้โพสต์ระบุว่า "ชาติไหนหมดเนี่ย หนักเลยวันนี้ ไปตัดต้น 5 บาท ฝากถึงคนที่จะกู้บ้าน 5555555 ตาย 2 ปีแรกชิล พอปีที่ 3 รอรีไฟแนนซ์" 

เมื่อโพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามากดไลก์เกือบ 20,000 ครั้ง และแชร์ต่อไปอีกกว่า 25,000 กว่าครั้ง และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกือบ 10,000 คน เช่นความเห็นนี้ บอกว่า เช่าไปจนตาย อย่างว่าแหละประเทศนี้ เขาให้ต่างชาติกับคนรวยซื้อ เพราะพวกเขามีกำลังที่จะซื้อสด ส่วนพนักงานหรือบุคคลธรรมดา หรือมนุษย์เงินเดือนก็ผ่อนไปเถอะ 30 ปี ไฟแนนซ์ก็รีแล้วรีอีก กว่าจะหมดก็ตายก่อน แล้วให้ลูกหลานผ่อนต่อ ภาษีรถยนต์กับภาษีบ้านประเทศนี้ ไม่มีอะไรบาลานซ์สักอย่าง"

บางความเห็นบอกว่า ก็ปกติอยู่แล้วครับ 2 ล้านกว่า เพิ่งผ่อนได้ 2 ปี ส่วนความเห็นนี้บอกว่า แนะนำว่าจ่ายงวดปกติ 1 ครั้ง และโอนโปะอีกครั้งตามไปครั้งที่ 2 จะไปตัดเงินต้นเต็ม ๆ จ่ายตามงวดแบงก์ ดอกเบี้ยเท่าตัว

ที่ปรึกษาวางแผนการเงิน แนะวิธีผ่อนบ้านหมดไว
ทีมข่าวได้สอบถามเรื่องนี้ไปทาง คุณวชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตพงศ์ กรรมการผู้จัดการ platforms lumpsum ที่ปรึกษาวางแผนการเงินส่วนบุคคล บอกว่า กรณีนี้เกิดจากที่ผู้โพสต์รายนี้เลือกแพ็กเกจการผ่อนบ้านที่อาจจะผิดจากความตั้งใจ บวกกับผู้โพสต์อาจจะไม่มีความรู้ว่าอัตราดอกเบี้ยสามารถขึ้นลงได้ตามสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งหากจะผ่อนบ้านให้ปลอดภัยควรผ่อนให้อยู่ในอัตราล้านละ 6,000-7,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป แต่แพ็กเกจการผ่อนของผู้โพสต์อยู่ในอัตรา ล้านละ 5,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเมื่อดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นจึงทำให้ต้องรับภาระในส่วนของดอกเบี้ย จึงแนะนำว่า หากอยากจะผ่อนชำระให้หมดเร็ว ๆ นอกเหนือจากค่างวดรายเดือนแล้ว หากมีกำลังก็อาจจะต้องจ่ายเงินโปะเพิ่มเพื่อไปตัดเงินต้นให้ลดลง หรือไม่ก็ต้องเตรียมตัวรีไฟแนนซ์เมื่อผ่อนครบ 3 ปี ซึ่งการจะรีไฟแนนซ์ ผู้ผ่อนก็จะต้องมีรายได้ที่ชัดเจน มีหน้าที่การงานที่มั่นคง ไม่ควรเปลี่ยนงานในระหว่างนี้ และต้องเลือกแพ็กเกจการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับแนวโน้มของดอกเบี้ยในอนาคต

ที่ปรึกษาวางแผนการเงินส่วนบุคคล ยังแนะนำด้วยว่า คนที่จะผ่อนบ้านไม่ควรซื้อบ้านที่มีมูลค่า 5 เท่าของรายได้ต่อปี เช่น ถ้ารายได้ทั้งปีมีประมาณ 1 ล้านบาท ก็ไม่ควรซื้อบ้านที่ราคาเกิน 5 ล้านบาท เพราะต้องวางแผนรองรับความไม่แน่นอนของชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเอาไว้ด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark