ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

ผัวเครียดหนี้ทั้งในและนอกระบบ ค้าขายไม่ดีหมุนเงินไม่ทันจนป่วยซึมเศร้า จ่อยิงเมียเจ็บคิดว่าตาย ก่อนยิ


วันนี้ (5 พ.ย. 66) เมื่อเวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เมธี ทัพสุรีย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กลางใหญ่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุชายใช้อาวุธปืนพกสั้น จ่อยิงหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านของตัวเอง หลังจ่อยิงท้ายทอยภรรยา คิดว่าเสียชีวิต แต่กระสุนแฉลบได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉีกขาด ยังให้การได้ จึงประสานรถกู้ชีพ ทต.กลางใหญ่ นำตัวส่งรักษาเย็บบาดแผลที่ รพ.บ้านผือ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ปรัชญา สนิทวงศ์ชัย ผกก.สภ.กลางใหญ่ นำกำลังตำรวจป้องกันและปราบปราม ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.บ้านผือ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุดรธานี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพนายสุทิน อายุ 36 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน สภาพศพสวมชุดนอน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. บริเวณหน้าอกซ้าย กระสุนฝังในนอนหงายเสียชีวิตอยู่กลางห้องโถงบ้าน เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง ที่พื้นบ้านพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบหักลำกล้อง ขนาด .38 มม. วางข้างมือด้านขวาของผู้เสียชีวิต

จากการตรวจสอบในห้องนอนของผู้เสียชีวิต และห้องโถง พบปลอกกระสุนปืน จำนวน 2 ปลอก และพบอยู่ในรังเพลิง จำนวน 1 ปลอก และพบลูกกระสุนขนาด .38 มม. ที่ยังไม่ได้ยิง ห่อด้วยถุงพลาสติกอีก จำนวน 3 นัด วางอยู่ที่พื้น ตำรวจจึงถ่ายรูปและตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนภรรยาทราบชื่อ น.ส.รินนา อายุ 42 ปี อาการปลอดภัย และแพทย์ให้กลับบ้านได้ หลังจากเย็บแผลบริเวณท้ายทอย จำนวน 3 เข็ม

สอบถามภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า แต่งงานอยู่กินกับผู้เสียชีวิตมา 2 ปีกว่า หลังจากผู้เสียชีวิตกลับจากไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยผู้เสียชีวิตเป็นคนมีเพื่อนเยอะ เพราะเป็นคนร่าเริงและคุยสนุก หลังจากมีหนี้สินเยอะ ซึ่งเป็นหนี้ที่ตนและสามีกู้ยืมมา ทั้งในระบบและนอกระบบรวมประมาณ 5-6 แสนบาท ทำให้สามีคิดมากในเรื่องนี้ เนื่องจากช่วงนี้ขายของก็ไม่ดี ทำให้หมุนเงินใช้หนี้ไม่ทัน จึงทำให้สามีป่วยซึมเศร้ามาได้ 1 เดือน และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนและสามีก็โทรให้ไฟแนนท์รถที่ไปกู้ยืมมาเอารถเก๋งคืนบริษัท เพราะไม่มีเงินส่งงวด จึงเป็นสาเหตุให้สามีคิดสั้น ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตายตามตน เพราะคิดว่ายิงตนเสียชีวิตแล้ว เนื่องจากตนวิ่งหนีหลังถูกยิง และไปล้มอยู่ถนนหน้าบ้าน ก่อนวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร

ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกอีกว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 04.00 น. ขณะตนนอนหลับได้ยินเสียงเหมือนคนจุดประทัด และมีกลิ่นควันดินปืนในห้อง จึงเปิดประตูบ้านออกมาดู และมารู้ทีหลังว่า สามีตนเป็นคนยิงปืนภายในห้องนอน แต่ยังไม่ได้ยิงใส่ใคร และขณะตนกำลังจะเปิดประตูหน้าบ้าน สามีก็ใช้อาวุธปืนเข้ามาจ่อยิงที่ท้ายทอยของตน 1 นัด ตนรู้สึกมึนชาที่ศีรษะ และวิ่งหนีตายไปล้มฟุบที่ถนนหน้าบ้าน สามีก็พยายามลากตนเข้ามาในบ้าน และสามีพูดว่าต้องตายไปด้วยกัน ส่วนตนก็ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย ตนจึงพูดให้สามีกลับคืนสติ แต่ก็ไร้ผล

หลังจากนั้นตนได้แย่งปืนจากมือสามีขว้างทิ้ง เพราะตนตัวใหญ่กว่าสามี สามีก็ตามไปเก็บปืนเดินเข้าไปในบ้าน และคิดว่าตนคงจะเสียชีวิตจากการจ่อยิงแบบเผาขน หลังจากนั้นตนได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ผ่านไป 10-15 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นภายในบ้านอีก 1 นัด เมื่อตำรวจมาถึงก็พบว่าสามีตนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้านแล้ว

ตอนแรกยังไม่รู้ว่าสามีป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จากความเครียดเรื่องหนี้สิน หลังจากทะเลาะกันอย่างรุนแรง เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา จึงพาสามีไปให้ตรวจอาการที่ รพ. หมอบอกว่าสามีป่วยซึมเศร้า และไม่ให้อยู่ตามลำพัง ซึ่งตนก็ทำตามหมอบอกทุกอย่าง กระทั่งมาวันนี้สามีก็มาก่อเหตุขึ้น และครบ 1 เดือน ที่เขามีอาการป่วยซึมเศร้าพอดี อยากบอกดวงวิญญาณสามีว่า ตนเสียใจมาก เพราะตั้งแต่อยู่กันมาไม่เคยบอกรักสามีแม้สักครั้งเดียว สามีก็ถามประจำว่ารักเขาหรือไม่ และรักมากแค่ไหน ที่ผ่านมาตนจะใช้การกระทำมากว่าการพูด กระทั่งเขามาจบชีวิตตัวเองแบบนี้ จึงอยากบอกเขาว่า รักเขามากที่สุด ส่วนอาวุธปืนไม่รู้ว่าสามีไปเอามาจากไหน ตั้งแต่อยู่กันมา 2 ปี กว่า ก็ไม่เคยเห็นว่าสามีจะมีอาวุธปืนเลย

ขณะที่พ่อของผู้เสียชีวิต บอกว่า สาเหตุที่ลูกชายคิดสั้นลงมือก่อเหตุยิงภรรยา และยังตัวเองตายตาม อาจจะเครียด หนีปัญหาหนี้สินที่ให้ตนไปกู้ยืม ธกส. มาให้ 450,000 บาท รวมทั้งลูกชายและลูกสะใภ้ เอารถเก๋งรีไฟแนนท์ 50,000 หมื่นบาท และพากันไปกู้ยืมหนี้นอกระบบอีก 77,000 บาท เพื่อนำเงินมาลงทุนเปิดร้านขายส้มตำ ลูกชิ้นทอด กาแฟสด ยำสด และน้ำผลไม้ปั่น ทำให้หมุนเงินใช้หนี้ไม่ทัน จนทำให้ป่วยซึมเศร้า นอนไม่หลับ และคิดสั้นใช้อาวุธปืนไล่ยิงภรรยาบาดเจ็บ ก่อนกลับเข้ามาบ้านใช้ปืนจ่อยิงหน้าอกซ้ายเสียชีวิตภายในบ้าน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark