ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

หนุ่มกาญจน์ควักปืนยิงพ่อเลี้ยงหญิงวัย 19 ดับฉุนโดนสาวเมิน


สาวกาญจนบุรีโดนหนุ่มตามจีบแต่ไม่เล่นด้วย พ่อเลี้ยงเข้าช่วยขวาง ฝ่ายชายฉุนจัดคว้าปืนยิงดับ ชาวบ้านไม่รู้เรื่องโดนยิงด้วย เปิดประวัติพบพ้นคุกคดีฆ่าคนแค่ปีเดียว

กาญจนบุรียิงโหด วันนี้(5 พ.ย.2566) เมื่อเวลา 12.45 น. ตำรวจ สภ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 ราย เหตุเกิดภายในป่าสัก พื้นที่บ้านพุบอน หมู่ 3 ตำบลเลาขวัญ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิต นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้น จำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ นายเสริมศักดิ์ หรือ ต้อม อายุ 38 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่บริเวณใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัด และนายบุญส่ง หรือ ลุงส่ง  อายุ 50 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณใบหน้าและลำตัวรวม 3 นัดเช่นกัน

ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายจิระเดช อายุ 36 ปี หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ ก่อนที่ตำรวจจะติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านของผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร หลังถูกจับกุมผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำต่อที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ

จากการสอบถามภรรยาของนายเสริมศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า นายจิระเดช ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาจีบและติดพันลูกสาววัย 19 ปี ได้ประมาณ 2-3 เดือน แต่ลูกสาววัยของตนไม่เล่นด้วย ทำให้นายจิระเดชเกิดความโมโหและพยายามมาตามตื๊อลูกสาวอยู่หลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามี ได้ออกไปหาตัดไม้เผาถ่านตามปกติ กระทั่งนายจิระเดชได้เข้ามาหา ที่บริเวณป่าสักจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนกับสามีรวมถึงวัยรุ่นหนุ่มสาวอีก 2 คน กำลังนั่งเล่นกันอยู่ นายจิระเดช ได้เข้ามาพยายามสอบถามว่าน้องเนยไปอยู่ที่ไหน แต่ตนและสามีไม่ยอมบอก ทำให้นายจิระเดชเกิดความโมโห ควักอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่พกติดตัวออกมาข่มขู่  แต่สามีของตนก็ยังไม่ยอมบอก ทำให้นายจิระเดชตัดสินใจใช้ปืนยิงเข้าใส่สามีของตนที่ใบหน้าและลำตัว รวม 3 นัด ต่อหน้าต่อตาของตนและวัยรุ่นอีกสองคนที่อยู่ข้าง ๆ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ นายบุญส่ง ซึ่งมีอาชีพหาของป่า เดินผ่านมาพอดี นายจิระเดชจึงหันปืนไปรัวยิงใส่นายบุญส่งอีก 3 นัด จนล้มลงเสียชีวิตข้างศพของนายเสริมศักดิ์ หลังก่อเหตุเสร็จเรียบร้อย นายจิระเดชยังได้บังคับให้ตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์และพากลับมาส่งที่บ้านของตน พร้อมย้ำไม่ให้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร ก่อนที่นายจิระเดชจะขี่รถหลบหนีไป ด้วยความกลัวตนจึง รีบหนีออกไปจากบ้าน ก่อนจะโทรไปแจ้งให้ป้าทราบเรื่องและให้ช่วยโทรแจ้งตำรวจ จนนำไปสู่การจับกุมตัวนายจิระเดชดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นางทิม อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นป้าของนางสาวมด กล่าวว่า นายจิรเดช ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาพยายามจีบหลานสาว แต่ตลอดเวลาน้องไม่เล่นด้วย เพราะรู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีของนายจิระเดช จึงไม่อยากยุ่งด้วย แต่นายจิระเดชก็ยังตามตื๊อไม่เลิก คืนก่อนเกิดเหตุ ก็ได้ขับรถมาเร่งเครื่องหน้าบ้านและพยายามเข้าไปหาน้องเนยที่อยู่ในบ้านตลอดทั้งคืน จนน้องเนยต้องโทรไปหานางสาวมด ซึ่งเป็นแม่และนายเสริมศักดิ์ที่เป็นพ่อเลี้ยง ให้มาช่วยอยู่เป็นเพื่อน และพยายามไล่ให้นายจิระเดชกลับบ้านไป กระทั่งช่วงเช้า เมื่อนายเสริมศักดิ์และนางสาวมด ออกไปเข้าป่าตัดฟืนมาเผาถ่านตามปกติ ก็ไปเจอกับนายจิรเดชผู้ก่อเหตุ จนนำมาสู่การก่อเหตุครั้งนี้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายจิระเดช ผู้ก่อเหตุ พบว่า เมื่อช่วงปี 2559 ได้เคยก่อเหตุฆ่าผู้สูงอายุและนำศพไปยัดเตาเผาถ่านเพื่อจุดไฟเผาอำพรางคดีมาแล้ว โดยศาลได้ตัดสินจำคุกนายจิระเดชเป็นเวลา 25 ปี แต่นายจิระเดชได้รับการลดหย่อนโทษกระทั่งพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณปี 2565 ติดคุกจริงเพียง 5 ปี ก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้าน และติดพันน้องเนยจนนำไปสู่การก่อเหตุในครั้งนี้

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark