ขอแฉกลับ สส.แจ้ วุฒิพงศ์ แฉ ผู้ช่วย สส. ก้าวไกล ทุจริตเรียกรับผลประโยชน์

สส.แจ้ วุฒิพงศ์ แฉ ผู้ช่วย สส. ก้าวไกล ทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ บอกร้องเรียนพรรคไปแล้วแต่ยังเงียบ เผย ผู้ช่วยคนนี้ เกี่ยวข้องคดีร้องเรียนคุกคามทางเพศด้วย ยืนยันออกจากพรรคมาแล้วไม่คิดกลับไปอีก ยอมรับคุย เต้ มงคลกิตติ์แล้ว

วันนี้ (6 พ.ย. 66) นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา อดีต สส. ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล หลังจากถูกขับออกจากพรรค เดินหน้าแฉ มีผู้ช่วย ของ สส. ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นบุคคลที่ เดินสายแจ้งความ ร้องเรียนตนเองหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการคุกคามทางเพศ ตนเองยอมไม่ได้จึงต้องนำเอาข้อมูลการทุจริตออกมาเปิดเผยบ้าง

ผู้ช่วยคนดังกล่าว มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ จากโครงการบอกกำจัดขยะในภาคตะวันออก และตนเองได้ยื่นร้องเรียนให้กรรมการบริหารพรรคก้าวไกลพิจารณาตรวจสอบแล้วพร้อมกับเอกสารหลักฐาน แต่ไม่รู้ว่าการดำเนินการดังกล่าวไปกระทบกับใครในกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ โดยที่ยังไม่มีกรรมการทางวินัยตรวจสอบ ตั้งแต่ที่ร้องเรียนไปจนถึงตอนนี้ย้ำว่าตนเองไม่รู้ว่าบุคคลนี้มีความสนิทสนมกับใครที่ดูแลภาคตะวันออกอยู่ เพียงต้องการทำหน้าที่ของตัวเองในพื้นที่เท่านั้น และการทุจริตที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องมีการตรวจสอบโดยเร่งด่วนรอให้เป็นกระแสแล้วค่อยทำไม่ได้ ไม่ควรตอบว่าไม่ละเลยหรือกำลังตั้งกรรมการตรวจสอบทางวินัย

ผู้ช่วย สส. คนนี้มีพฤติกรรมเอื้อในการซื้อที่ดิน 3.5 ล้านบาท แต่ปรับลดราคา หลบเลี่ยงภาษี ผู้ช่วยคนดังกล่าวมีความสนิทสนมและทำงานร่วมกับ สส.คนหนึ่ง ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่

ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่าผู้เสียหาย ที่ร้องเรียนว่าตนเองคุกคามทางเพศจะมีความสัมพันธ์กับผู้ช่วย สส. คนดังกล่าวหรือไม่ เนื่องจากมีภาพคู่ที่ถ่ายด้วยกัน และมีความสนิทสนมกัน

อย่างไรก็ตามย้ำว่าการออกมาเปิดเผยในวันนี้ ต้องการให้เพื่อนสมาชิกในพรรค เห็นหลักฐานและข้อเท็จจริงอื่น ๆ ด้วย ตนไม่เคยมีโอกาสได้แถลงมติดังกล่าวไม่ต่างจากศาลเตี้ย กระบวนการของพวกมาลากไป

ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะตนเองเดินโดยที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ ว่าจะไปกระทบใครบ้างเพียงแค่ต้องการจัดการกับการทุจริตโครงการบ่อขยะภาคตะวันออก และหาก ค้นหาในอินเตอร์เน็ต  “ ฟ้องปิดปาก 50 ล้าน” จะเจอชื่อและภาพของผู้ช่วย สส. คนนี้  เพราะคนนี้เดินทางไปฟ้องหลายที่

นายวุฒิพงษ์ มองว่าพรรคก้าวไกล ควรมีการไต่สวนเบื้องต้นก่อน ในข้อมูลที่ตนเองให้ไปมีหลายอย่างที่ต้องตรวจสอบทางวินัย ซึ่งต่างจากกรณีของตัวเองที่ใช้เวลาเพียงแค่ 22 วัน แล้วถูกขับออกจากพรรค ยืนยันที่ออกมาพูดครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคก้าวไกล แต่เป็นเรื่องของการทุจริตของผู้ช่วย สส. ที่เคยร้องเรียนไปแต่ยังถูกเพิกเฉย

พร้อมเปิดเผยว่ามีผู้บริหารของพรรคก้าวไกล ส่งข้อความมาบอกว่าให้หยุดพูดเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองจะหยุดพูดแต่ขอให้ทางพรรคก้าวไกลให้เกียรติการทำหน้าที่ของตนเอง พรรคก้าวไกล ต้องเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก เพราะพรรคก้าวไกล ถือเป็นองคาพยพขนาดใหญ่

อีกทั้งจนถึงตอนนี้ยังได้รับเอกสารการถูกขับออกจากพรรคแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่าการออกแถลงครั้งนี้ไม่ได้หวังให้มีการกลับมามติพรรคเรียกตนเองเข้าไปสังกัดพรรคก้าวไกล ตนเองจำเป็นต้องเดินออกไปและไม่มีความคิดจะหันกลับไปอีก ส่วนจะไปอยู่ที่ไหนต้องพิจารณาดูว่าพรรคนั้นมีอุดมการและแนวความคิดเดียวกันหรือไม่ ยอมรับ คุยกับ เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ แต่แค่คุยกันเบื้องต้น ยืนยันอยากทำงานกับพรรคการเมืองที่มีประโยชน์กับประเทศมากกว่านี้

พร้อมเปิดเผยอีกด้วยว่าขณะนี้ อยู่ในขั้นขั้นตอนของการพิจารณา ว่าจะยื่นเรื่องให้กรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยมติของพรรคก้าวไกลที่ขับตนเองออกจากพรรคชอบด้วยกฎหมายหรือไม่