ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ไรเดอร์สาวถูกแฟนทำร้าย ถ่ายคลิปแบล็กเมล์

เช้าข่าว 7 สี - ไรเดอร์สาวถูกแฟนหนุ่มที่เพิ่งคบหน้ากันได้ 3 เดือน ทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ แถมยังถ่ายคลิปมีเพศสัมพันธ์กัน ขู่ให้มาหาเพื่อมีเพศสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง แต่พอหญิงสาวไม่ไปก็นำคลิปไปเผยแพร่ และยังขู่ฆ่าอีกด้วย

กัน จอมพลัง พาผู้เสียหาย เป็นหญิงอายุ 29 ปี ไปที่ สน.ตลิ่งชัน หลังเธอเคยมาแจ้งความ ว่าถูกอดีตแฟนที่คบมา 3 เดือน ทำร้ายร่างกาย เอาหมวกกันน็อกฟาดหน้า บีบคอ เตะ ต่อย ทุบตีหลายครั้ง และถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้แบล็กเมล์ ขู่จะปล่อยคลิปหากไม่ยอมไปหา และยังขู่ว่าจะยิงลูกของหญิงสาว ไม่แค่นั้นฝ่ายชายยังสร้างแอ็กเคานต์ปลอมขึ้นมาพูดคุย ง้อเธอกลับไป และข่มขู่ว่าจะปล่อยคลิป เยาะเย้ยว่านำคลิปไปปล่อย

หญิงสาว เล่าว่า ทำอาชีพไรเดอร์ มีลูกชายอายุ 7 ขวบ และ 12 ขวบ ประมาณต้นปีที่ผ่านมารู้จักกับหนุ่มไรเดอร์อายุ 25 ปี ได้พูดคุยและคบหากัน ช่วงแรกเป็นคนดีมาก ดูแลเอาใจใส่ ต่อมามีเพศสัมพันธ์กัน แต่ฝ่ายชายแอบถ่ายคลิปไว้โดยที่เธอไม่รู้ตัว เมื่อรู้ตัวฝ่ายชายก็ลบคลิป จากนั้น 3 เดือน ฝ่ายชายเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งทำร้ายร่างกาย ใช้หมวกกันน็อกฟาดที่ใบหน้า ชกต่อยอีกหลายครั้ง สาเหตุมาจากไม่พอใจที่เธอไม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัดด้วย เธอจึงเข้าแจ้งความ สน.ตลิ่งชัน

แต่ฝ่ายชายไม่หยุด ส่งข้อความมาข่มขู่ ให้ไปหา หากไม่ไปจะนำคลิปลับไปปล่อย ซึ่งเธอก็ตกใจว่าลบไปแล้ว แต่ฝ่ายชายกู้คลิปมาได้อีก เธอจึงยอมไปหาให้ลบคลิป เมื่อไปถึงฝ่ายชายก็ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย จับขังไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปทำงาน พอถูกปล่อยกลับฝ่ายชายก็ข่มขู่ให้ไปหาอีก แถมยังถ่ายภาพปืนส่งมาข่มขู่

จนล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายบอกว่าถ้ามาจะไม่ทำร้ายแล้ว ให้เข้าไปเก็บของกลับคืนไป แต่ก็โดนทำร้ายอีก คราวนี้เธอบอกต้องยอมเอาขวดแก้วตีศีรษะตนเองให้แตก ฝ่ายชายจึงยอมปล่อยออกมา

เมื่อรู้ว่าถูกแจ้งความดำเนินคดี ฝ่ายชายข่มขู่และนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่ทุกช่องทาง ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มไรเดอร์ที่เธอทำงาน จนจะโดนสั่งแบน จนถึงทุกวันนี้ฝ่ายชายยังพยายามส่งข้อความมาข่มขู่อยู่ตลอด จนไม่กล้ารับเบอร์แปลก

พันตำรวจเอก มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี ผู้กำกับการ สน.ตลิ่งชัน บอกว่า ก่อนหน้าที่มี่ผู้เสียหายมาแจ้งความไว้เรื่องทำร้ายร่างกายนั้น ได้ทำการสอบปากคำไปแล้ว และได้ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย ซึ่งทางตำรวจได้ผลการตรวจร่างกายมาแล้ว และจะเร่งเก็บพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหา ส่วนที่มาแจ้งเรื่องเผยแพร่คลิป จะเร่งสอบปากคำเพื่อดำเนินคดี

ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นคนนามสกุลใหญ่โต ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ ประเด็นนี้ไม่มีผลต่อรูปคดี ต่อให้นามสกุลใหญ่แค่ไหนหากทำผิดก็จะต้องได้รับโทษ และที่ผู้เสียหายบอกว่าผู้ต้องหาได้นำคลิปไปขายในราคา 12,000 บาท นั้น ตำรวจจะสอบปากคำและดูข้อกฎหมายว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark