บุกรวบ นายก อบต.บางปลา คาที่ทำงาน ปมเรียกรับเงินสินบน จ.สมุทรปราการ

เช้านี้ที่หมอชิต - ข่าวใหญ่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. บุกจับ นายก อบต.บางปลา จังหวัดสมุทรปราการ ข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินสินบนกว่า 2 ล้านบาท เพื่อแลกกับการออกใบอนุญาตขุดดิน และถมดิน

นี่คือนาทีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. นำหมายจับจากศาลอาญาทุจริตภาค 1 ไปแสดงต่อ นายชนินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางปลา และ นางสาวพรมณี ผู้ช่วยนักจัดการงานทั่วไปฯ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับเงินเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการตามหน้าที่ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังตรวจค้น พบเงินสดในโต๊ะทำงาน 2,271,427 บาท, ปืน 9 มม. บรรจุกระสุน 11 นัด เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันอีกครั้งของ 3 ป. คือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดย นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แถลงรายละเอียดการจับกุมครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่อำเภอบางปลา จังหวัดสมุทรปราการ ว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของ อบต.บางปลา มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ เพื่อแลกกับการออกใบอนุญาตขุดดินและถมดิน และใบอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการใช้อาคาร โดยก่อนหน้านี้มีผู้ประกอบการรับเหมาขุดดิน เข้าไปติดต่อยื่นคำร้องขออนุญาตขุดดินในพื้นที่ แต่ปรากฏว่าถูกผู้บริหารของ อบต.บางปลาฯ เรียกเข้าไปคุยเจรจาขอเงินค่าดำเนินการเป็นเงิน 2,600,000 บาท แต่ผู้รับเหมาขอต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท ซึ่งโดยปกติแล้วในการขออนุญาตขุดดิน จะเสียค่าธรรมเนียมให้ทางราชการเพียง 500 บาท เท่านั้น

ต่อมา มีผู้ประกอบการได้ไปขอใบอนุญาตการเปลี่ยนแปลงการใช้อาคาร การเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารตาม พรบ.ควบคุมอาคารฯ แต่ถูกผู้บริหารของ อบต.บางปลาฯ เรียกเงินตารางเมตรละ 30 บาท รวมเป็นเงิน 360,000 บาท ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียหาย จึงได้นำหลักฐานเป็นภาพบันทึกเสียงวีดิโอการเรียกรับเงินดังกล่าว มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม นำไปสู่การขอหมายศาลและจับกุมในครั้งนี้

ทั้งนี้ นายภูมิวิศาล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนเคยพยายามวางแผนล่อซื้อจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ผู้ต้องหาไหวตัวทัน เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ มีสายข่าวเยอะ ทำให้ปฏิบัติการครั้งนั้นล้มเหลว แต่ผู้ต้องหายังคงมีพฤติการณ์เรียกรับสินบนและข่มขู่ผู้ประกอบการต่อเนื่องหลายราย ไม่หลาบจำ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำหลักฐานไปไปตรวจสอบแล้วพบว่าเพียงพอในการเอาผิดได้

ขณะที่ทาง ป.ป.ช. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายก อบต.รายนี้ มีคดีเกี่ยวกับการนำรถหลายคันของทางราชการไปใช้ส่วนตัว เมื่อปี 2564 ด้วย ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. คาดว่าจะแจ้งข้อหาเร็ว ๆ นี้