เสี่ยบิ๊กแจงสติกเกอร์เป็นชื่อตัวเอง ไม่เกี่ยวกับส่วย

"เสี่ยบิ๊ก" แจงติดสติกเกอร์ไม่เกี่ยวกับส่วย ตนเองชื่อบิ๊กจึงติดสติกเกอร์ตัวบี เกิดวันพุธจึงใช้สีเขียว ส่วนที่ใช้รูปดาวเพราะอยากเป็นดาวรุ่ง ด้านทนายของเสี่ยบิ๊ก ระบุว่า ถนนพังไม่เกี่ยวกับรถ ขอให้ตำรวจตรวจสอบว่าฝาบ่อได้มาตรฐานหรือไม่

เมื่อเวลา 18.40 น. วันนี้ (10 พ.ย.66) ตำรวจนำตัวนายวุฒิภัทร จันทรินทรากร หรือ เสี่ยบิ๊ก ผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ครอบครองรถบรรทุกที่ตกบ่อพักร้อยสายไฟ ออกจากห้องสอบสวน หลังแจ้งข้อหา “เป็นผู้ใช้ให้คนขับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน” จากนั้นได้พิมพ์ลายนิ้วมือแล้วปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมนัดที่จะนำตัวไปผัดฟ้องที่ศาลอาญาพระโขนง

โดยเสี่ยบิ๊ก ชี้แจงเรื่องสติกเกอร์รูปดาวสีเขียวตัวบี ไม่เกี่ยวกับส่วย ตนชื่อบิ๊กจึงติดสติกเกอร์ตัวบี ตนเกิดวันพุธจึงใช้สีเขียว และใช้ดาวเพราะอยากเป็นดาวรุ่ง และที่ต้องติดสติกเกอร์หน้ารถเพราะเวลาไปขนดินในไซต์งานต่าง ๆ  เขาจะได้รู้เป็นรถของใคร เก็บเงินกับใคร ตนเองไม่ได้เพิ่งวิ่งรถบรรทุกแค่ 4-5 เดือน ทำมาตั้งแต่ปี 2561 มีรถจำนวน 3 คัน และติดสติกเกอร์ที่กระจกหน้ารถนี้มานานแล้ว

ส่วนที่มีการไปถ่ายคลิปถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุก เนื่องจากถังน้ำมันแตกแล้วรั่ว กลัวจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนน้ำมันไหลลงถนนและมอเตอร์ไซค์ลื่น จึงได้มีการถ่ายน้ำมันออกจากถัง แต่เสี่ยบิ๊กปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับการขนดินออกจากรถบรรทุกคันที่ประสบเหตุตกบ่อ

ทั้งนี้ เสี่ยบิ๊กอ้างว่าไม่ทราบว่ารถที่บรรทุกจะบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ เพราะตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่ยอมรับว่าทุกครั้งที่ตักดินใส่รถไม่มีการชั่งน้ำหนัก ใช้วิธีการกะๆ เอา  อย่างไรก็ตามได้ขับรถบรรทุกผ่านเส้นทางนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ยังไม่มีบ่อพักสายไฟ พอมีการขุดเป็นบ่อพักสายไฟ ก็ทำให้รถของตนตกลงไปจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ยืนยันว่าไม่มีเจตนาทำให้ถนนเสียหายเพราะตนก็รักทรัพย์สินของตัวเอง

ด้านทนายความของเสี่ยบิ๊ก ระบุว่า ถนนพังไม่เกี่ยวกับรถ อาจเป็นเพราะฝาบ่อเปิดปิดทุกวัน เพื่อที่จะเอาสายไฟฟ้าลงดิน ตนจึงขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบคานเหล็กและแผ่นคอนกรีตที่ปิดฝาบ่อว่ารับน้ำหนักได้หรือไม่ ในส่วนของรถน้ำหนักเกินก็ว่ากันไป แต่ฝาบ่อที่ปิดไม่ได้มาตรฐานหรือคานเหล็กรับน้ำหนักได้หรือไม่นั้น ตนก็ขอให้ตรวจสอบ