|
ลูกหนี้ กยศ.เฮ! คำนวณหนี้ตาม กม.ใหม่ยอดลดเร็ว จ่ายหนี้เกิน 150% หยุดจ่ายได้
ลูกหนี้ กยศ.เฮ คำนวณหนี้ตามกฎหมายใหม่ยอดลดเร็วขึ้น จ่ายหนี้แล้วเกิน 150% หยุดจ่ายได้ ยังไงหนี้ก็หมดอยู่ดี ลุ้นจ่ายหนี้หมดแล้วอาจได้เงินคืน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 66 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินฯ ได้หารือแนวทางการคำนวณยอดหนี้ของลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ใหม่ หลัง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.2566 โดยการคำนวณจะเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่วันแรกที่ได้ชำระหนี้ให้กับ กยศ. จะนำเงินที่ผู้กู้ยืมมาชำระให้กับ กยศ.ไปหักเงินต้นก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นตามด้วยดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ จากเดิมที่เป็นการตัดเบี้ยปรับก่อน แล้วตามด้วยดอกเบี้ย และเงินต้นในลำดับสุดท้าย
ลูกหนี้ที่ยังมีหนี้อยู่กับ กยศ. ที่ยังชำระไม่หมด ให้กลับไปคำนวณเงินต้น และเงินที่ชำระมาว่าเกิน 150% ของเงินที่กู้มาหรือไม่ ถ้าเกิน 150% สามารถหยุดจ่ายหนี้ทันที พอคำนวณใหม่อาจจะปิดยอดได้เลย หรือหากคำนวณแล้วมีการจ่ายเงินเกินมาก็อาจได้รับเงินคืนด้วย ส่วนกลุ่มของลูกหนี้ที่ปิดยอดไปแล้ว กยศ.จะตามไปคำนวณยอดหนี้ให้เช่นกัน
เช่น กรณีลูกหนี้ กยศ. กู้เงินต้นไป 1 แสนบาท และในอดีตได้ผ่อนชำระหนี้ไปแล้ว 150% ของเงินต้น หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท หรือกรณีลูกหนี้กู้เงินไป 2 แสนบาท และได้ผ่อนชำระหนี้ไปรวมแล้ว 3 แสนบาท แม้ว่าลูกหนี้รายนั้นจะผิดนัดชำระหนี้บ้าง แต่ได้ชำระคืนหนี้ครบแล้ว เนื่องจากกฎหมายใหม่ได้ปรับลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% จากเดิม 18% และมีการกำหนดลำดับการตัดหนี้ใหม่
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการดำเนินงาน กยศ.จะไปจัดทำระบบการคำนวณให้เสร็จสิ้นภายใน 5 เดือนนับจากนี้ แต่ที่ประชุมมองว่าเป็นเวลาที่นานเกินไป จึงขอให้มีการทำระบบขึ้นมาแบบง่าย หรือคำนวณด้วยเจ้าหนี้ที่ก่อน เพื่อเร่งคำนวณยอดหนี้ให้ลูกหนี้กลุ่มที่มีความเดือดร้อน และมีความจำเป็นเร่งด่วนก่อน 2 กลุ่ม โดยจะเร่งรวบรวมให้ทันภายในเดือน ธ.ค. นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
1.ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องร้องและอยู่ในชั้นของกรมบังคับคดี จำนวน 4.6 หมื่นคน จะเริ่มทำให้เสร็จในเดือนธันวาคม 2566 นี้
2.ลูกหนี้ที่จะหมดอายุความในเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 4 หมื่นคน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ.ใหม่
BUGABOONEWS
