ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

รวบขอทานชาวจีน อึ้ง! รายได้เกือบ 2 ล้านบาทต่อเดือน

เช้านี้ที่หมอชิต - คนใจบุญมักให้เงินขอทานด้วยความสงสารต้องดูข่าวนี้ รวบชาวจีนขอทาน สงสัยเป็นขบวนการค้ามนุษย์ พบเดือนหนึ่งมีเงินหมุนเวียนเกือบ 2 ล้านบาท ทั้งยังมีหญิงไทยอ้างเป็นล่ามขอเคลียร์ตำรวจ จ่ายเงินแลกปล่อยตัวขอทาน

มีคนพบเห็นชาวจีนถูกตัดมือทั้ง 2 ข้าง และถูกเอาน้ำกรดราดที่บริเวณใบหน้าจนเป็นแผล นั่งขอทานที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านปิ่นเกล้า มานานนับปี จึงแจ้งให้ กัน จอมพลัง ไปตรวจสอบ เมื่อวานนี้ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง จึงลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พม. และ ตำรวจ สน.บางพลัด ซึ่งพบหญิงชาวจีนคนดังกล่าวนั่งขอทานจริง ๆ แต่ตอนแรกเหมือนจะไหวตัวแอบหลบไปอยู่ในห้องน้ำของห้างฯ ตำรวจจึงเข้าไปนำตัวออกมา เมื่อตรวจค้นในกระเป๋าพบเงินเหรียญ และธนบัตรมูลค่า 20 บาท รวม ๆ แล้วนับหมื่นบาท แต่ไม่พบหนังสือเดินทางแต่อย่างใด

ขณะที่ แม่ค้าขายขนมหน้าห้างสรรพสินค้าได้ให้ข้อมูลว่า ขอทานกลุ่มนี้มี 2 คน เริ่มมานั่งตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี แต่งชุดนักเรียน-นักศึกษามานั่งขอทานหน้าห้างฯ ตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงพลบค่ำทุกวัน

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า พอลงพื้นที่ถึงทราบว่ากรณีนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับสัปดาห์ที่แล้วที่เจ้าหน้าที่ พม. ไปจับกุมขอทานคนจีน ซึ่งทุกคนมีอายุมากกว่า 40 ปี ใช้ความพิการแลกคะแนนความสงสารจากคนที่ผ่านไปมา แล้วมีหญิงชาวไทยแสดงตัวเป็นล่าม เพื่อขอเคลียร์กับตำรวจ

ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า ขอทานแต่ละคนได้เงินจากการขอทานวันละมากกว่า 10,400 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1,800,000 บาท ต่อคนต่อเดือน ซึ่ง กัน จอมพลัง ตั้งคำถามว่าเงินทั้งหมดไปอยู่ที่ใคร ซึ่งน่าจะเป็นขบวนการค้ามนุษย์ เพราะตำหนิที่ร่างกายของขอทานเหมือนถูกทำให้เป็น ตำรวจจึงควบคุมตัวหญิงชาวจีนมาสอบปากคำที่ สน.บางพลัด

ต่อมามีผู้หญิงซึ่งอ้างตัวว่าเป็นล่ามของขอทานเดินทางมาที่ สน.บางพลัด พร้อมนำหนังสือเดินทางของหญิงขอทานมาแสดง โดยอ้างว่ามีคนติดต่อตนให้มาเป็นล่ามเพื่อประสานงานกับตำรวจ แต่เมื่อถามว่ารู้จักคนที่จ้างวานได้อย่างไร หญิงคนดังกล่าวบอกว่า เคยเจอกันที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อนานมาแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าทำธุรกิจอะไร

ส่วนการสอบปากคำหญิงขอทานชาวจีน ให้การว่า เข้ามาขอทานในประเทศไทยเมื่อ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพียงคนเดียว โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายภายในประเทศไทย ส่วนบาดแผลตามร่างกาย อ้างว่าตอนเด็ก ๆ มีวัตถุของเหลวระเบิดใส่ ส่วนการอยู่ในไทย เธออ้างว่าไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งขัดแย้งกับกุญแจและคีย์การ์ดที่พบในกระเป๋า ตำรวจจึงประสานงานกับ ตม. เพื่อตรวจสอบและผลักดันขอทานข้ามชาติทั้งหมดกลับประเทศ และจะเสนอให้ขึ้นแบล็กลิสต์ห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรอีก

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark