เพื่อน ป.6 โหดฉุนโดนเด็กพิเศษท้าชก ต่อยปาก-ข่วนหน้าเละ จ.สงขลา

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองหรือครูที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษแล้วเรียนร่วมกับเพื่อนนักเรียนปกติ หากไม่หาทางป้องกันก็อาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ ที่ จังหวัดสงขลา เด็กพิเศษรายหนึ่งถูกเพื่อนร่วมชั้น ป.6 ชกต่อยและข่วนจนใบหน้าเละ สุดท้ายผู้ปกครองฝ่ายกระทำจะจ่ายค่าทำขวัญ 1,000 บาท

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพใบหน้าลูกชายมีร่องรอยบาดแผลโดนข่วน พร้อมระบุข้อความว่า โดนขนาดนี้ ควรทำไง สรุปเหตุการณ์ให้นะคะ ไบรอัลไปยืนขวางน้องที่เล่นบอลอยู่ ฝั่งนั้นบอกให้ไบรอัลหลีกถ้าไม่หลีกจะชกให้แว่นแตก ไบรอัลเลยว่าก็ชกสิ ทางฝั่งนั้นจึงชกปากแตกเลย พอไบรอัลล้มก็เหยียบแขนล้มหัวฟาดพื้น นั่งคร่อมข่วนเพราะเล็บยาวมาก

สำหรับ น้องไบรอัล คุณแม่บอกว่าเป็นเด็กสมาธิสั้นและมีอาการออทิสติก ซึ่งการที่บอกเพื่อนว่าชกสิ เป็นนิสัยของเด็กพิเศษ ไม่ได้คิดว่าเพื่อนจะชกจริง

ล่าสุดผู้สื่อข่าวพบกับคุณแม่ของน้องไบรอัล ชื่อ นางสาวอุบล บ้านอยู่ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา และน้องไบรอัล อายุ 12 ขวบ เรียนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองสงขลา โดยน้องไบรอัลเปิดให้ดูร่องรอยบาดแผลตามใบหน้า ปาก ท้ายทอยและบริเวณหน้าอก พร้อมหลักฐานเอกสารค่ารักษาพยาบาล

จากการสอบถามน้องไบรอัลก็เล่าว่า ปมเหตุคือหลังพักเที่ยง มีเพื่อนมาตามให้ตนเข้าห้องเรียน น้องไบรอัล ก็หวังดีไปชวนเพื่อนที่กำลังเตะฟุตบอลให้ขึ้นไปเรียน แต่ไปเรียกแล้วเพื่อนไม่ยอม น้องจึงยืนรอที่สนาม แต่จู่ ๆ เพื่อนมาท้าว่าถ้าไม่หลีกจะต่อยให้แว่นแตกเลย น้องไบรอัลจึงเก็บแว่นใส่กระเป๋ากางเกง เพราะแว่นเพิ่งไปทำมาใหม่ แต่พอถอดแว่นอีกฝ่ายก็ต่อยเลย โดยที่น้องไม่มีโอกาสป้องกันตัว

ส่วนคุณแม่เล่าว่า เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ช่วงเที่ยงครูโทรมาแจ้งว่าน้องมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อน แต่คุณครูสอบถามว่า 2-3 วันนี้ น้องกินยาอยู่ไหม เพราะน้องมีอารมณ์โมโหฉุนเฉียวแถมบอกว่าน้องไปท้าเพื่อน แต่คุณแม่แจ้งว่าน้องกินยาอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อคุณแม่แจ้งว่าจะไปรับน้องกลับบ้าน คุณครูกลับบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องไปรับ แผลแค่นิดเดียว ตอนนี้คุณครูทำแผลอยู่ แต่พอคุณแม่ไปรับน้องกลับพบว่าใบหน้าบวม รอยขีดข่วนเต็มใบหน้าและลำคอ เลือดยังไหลอยู่ ตอนแรกแม่ยังห่วงคู่กรณี คิดว่าเด็กชกต่อยกัน แต่เมื่อถามเพื่อนคนดังกล่าวก็ยอมรับว่า ตนเองเป็นฝ่ายชกและข่วนน้อง ตอนแรกโรงเรียนพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน แต่ผู้ปกครองฝ่ายที่กระทำให้คุณแม่นำใบเสร็จค่ารักษามาเบิกตามจริง ส่วนค่าทำขวัญจะเสนอให้เพียง 1,000 บาท คุณแม่จึงเข้าแจ้งความ

เมื่อคุยกันไม่ลงตัวก็ใช้ช่องทางกฎหมายตามสิทธิ์ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ขณะนี้ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาพิเศษเข้ามาช่วยเหลือ ประเมินสภาพจิตใจ ได้สัมภาษณ์เพื่อประเมินพฤติกรรมเพื่อหาที่เรียน ก่อนสรุปว่าให้น้องไบรอัลศึกษาที่บ้านไปก่อนจนจบ และจะให้สนับสนุนให้น้องไปเรียนในโรงเรียนเพื่อเด็กพิเศษต่อไป