ผัวร้องเมียโดนแก๊งเจ้าหนี้เงินกู้อุ้มหาย สุดท้ายโอละพ่อ

เช้านี้ที่หมอชิต - สามีหนุ่มร้องสายไหมต้องรอด ภรรยาสาวโดนเจ้าหนี้อุ้มหายไป 2 วัน หลังไม่ยอมจ่ายหนี้เงิน 90,000 บาท สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ธ.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำ นายเอก (นามสมมุติ) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ว่าเจ้าหนี้เงินกู้พาพวกอุ้มภรรยาหายไปจากที่ทำงาน 2 วันแล้ว อ้างว่า หากไม่คืนเงินจะทำร้ายร่างกาย และนำภรรยาไปขาย

โดย นายเอก เปิดเผยว่า คบกับภรรยาคนนี้มา 10 กว่าปี ภรรยามีอาชีพสร้างเวทีแบ็กสเตจ เมื่อก่อนไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงิน แต่พักหลังงานน้อย การเงินมีปัญหา ภรรยาจึงไปกู้ยืมเจ้าหนี้นอกระบบเป็นเงิน 150,000 บาท ซึ่งตนช่วยใช้หนี้ไปแล้วบางส่วน เหลืออีก 90,000 บาท ซึ่งภรรยาไม่มีเงินให้แล้ว จึงต่อรองเจ้าหนี้ สรุปว่าให้ทยอยจ่าย 90,000 บาท คืน 4 งวด หากผิดนัดจะมีการคิดดอกด้วย งวดแรกคือวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ต้องจ่าย 37,000 บาท แต่ตนจ่ายให้ไม่ครบ และขอเลื่อนไปรวมกับยอดงวดถัดไป จนกระทั่งวันเดียวกัน ภรรยาให้ตนไปส่งที่ปั๊มน้ำมันหน้าบ้าน ทั้งที่ปกติจะไปส่งที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ทำงาน จากนั้นเพื่อนของภรรยาก็มารับเดินทางไปทำงาน จนเวลา 11.00 น. ภรรยาไลน์มาบอกว่าเข้าที่ทำงานไม่ได้ เพราะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 7-8 คน ยืนดักรอหน้าทางเข้าทำงาน

นายเอ บอกว่า จากนั้น นางสาวเปมิกา ก็ติดต่อกลับมาผ่านไลน์บอกว่าถูกเจ้าหนี้อุ้มไปทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ให้หาเงินมาคืนให้ครบ ไม่งั้นจะส่งไปขายที่อื่น ตอนแรกตนยังไม่ปักใจเชื่อ กระทั่งภรรยาวิดีโอคอลไปหาญาติด้วยใบหน้าเปื้อนเลือด ล่าสุดตนหาเงินได้ 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีภรรยาไปแล้ว เพราะคนร้ายจะให้ใช้วิธีโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารภรรยา พูดคุยทั้งหมดผ่านไลน์ ถูกควบคุมและตรวจสอบโดยคนร้าย ตนเชื่อว่าภรรยาไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกใคร

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เปิดเผยว่า ตอนแรกตนมองว่าอาจจะเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา แต่เมื่อ นายเอก บอกว่าภรรยาวิดีโอคอลมาในสภาพเลือดเต็มใบหน้า มีแผลใต้ตา จึงพามาแจ้งความ หากเป็นเรื่องจริงจะได้ติดตามตัว และช่วยเหลือได้ทันท่วงที

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ห้วยขวาง เดินทางไปที่ทำงานของ นางสาวเปมิกา ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ก็พบว่า นางสาวเปมิกา ยังทำงานตามปกติ ไม่ได้ถูกกักขังหรือถูกทำร้ายตามที่อ้าง เจ้าตัวรับสารภาพเบื้องต้นว่า กุเรื่องทุกอย่างขึ้นมาเอง ชุดสืบสวนจึงเชิญตัว นางสาวเปมิกา มาพูดคุยที่ สน.ห้วยขวาง ซึ่งหลังจากนั้น นางสาวเปมิกา ก็โอนเงินคืน นายเอก โดยอ้างว่ายืมเพื่อนมาโอนให้ นายเอก เอาไว้ใช้ เพราะเป็นห่วง

เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ นายเอก สามีของนางสาวเปมิกา ให้ข้อมูลว่า นางสาวเปมิกา เคยอ้างว่าถูกเจ้าหนี้อุ้มไปเรียกเงิน 2 ครั้งแล้ว หากครั้งนี้โกหกอีกจะขอเลิกรากับนางสาวเปมิกา จริง ๆ เพราะรวมแล้วตนหมดเงินกับภรรยาคนนี้ไปร่วม ๆ ล้านบาทแล้ว