คืบหน้าพยาบาลให้ลูกกินยาผิด ล่าสุด แม่ได้เข้าแจ้งความแล้ว

ห้องข่าวภาคเที่ยง - จากกรณีที่พยาบาลป้อนยาผิดให้เด็กอายุ 1 ขวบ 4 เดือน หลังจากที่แม่พาไปสแกนสมอง เนื่องจากเด็กล้มหัวฟาดพื้น ล่าสุด แม่ได้เข้าแจ้งความแล้ว

หลังจากลูกชายวัยขวบเศษ ลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ แม่จึงพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อสแกนสมอง พอเด็กมีอาการชักเกร็ง ทางโรงพยาบาลจึงแนะนำให้ส่งตัวไปสแกนสมองยังโรงพยาบาลแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่มีความพร้อมมากกว่า โดยพยาบาลได้ให้น้องกินยาก่อนเดินทาง อ้างว่า เป็นยานอนหลับ เด็กจะได้ไม่ดิ้น ตัวยาลักษณะเป็นน้ำใส ๆ ปริมาณครึ่งหลอดฉีดยา (เซริง) ในระหว่างนั้นลูกมีอาการทรุดลง ตาลอย แพทย์โรงพยาบาลแห่งที่ 2 แจ้งว่า ยาที่น้องกินไปมีฤทธิ์เป็นกรด น้องมีอาการปากบวมคอช้ำดำ คล้ายรอยไหม้ จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลแห่งที่ 3 คือ โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อได้สอบถามไปยังโรงพยาบาลแรกว่า เอายาอะไรให้ลูกกินก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน

ล่าสุด ผู้เป็นแม่ได้เข้าแจ้งความ ที่ สภ.พระประแดง แล้ว ยืนยันทางครอบครัวจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยเมื่อช่วงสักครู่นี้ แม่ก็ได้เดินทางไปโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อติดตามอาการของลูกชาย โดยแพทย์แจ้งว่า กำลังทำการส่องกล้องดูอวัยวะภายในของเด็กอยู่ ซึ่งน่าจะทราบผลในช่วงบ่าย ๆ

ล่าสุด พบว่า ยาที่เด็กกินไปมีฤทธิ์เป็นกรด มีสารละลายไตรคลอโรอะเซติก ความเข้มข้น 80-90 % เป็นยารักษาหูด 

โดยหลังจากนี้ทางเพจ จะนำแม่เข้าร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เร่งเอาผิดกับพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่ให้ยาลูกผิด โดยมีการตั้งข้อสังเกตุ เหตุใดเจ้าหน้าที่จึงนำยาอันตรายมาวางไว้ปะปนกับยาที่ใช้รักษาเด็ก จึงทำให้เกิดการสับสนหยิบยาผิด เพราะมีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ เหมือนกัน