ไอซ์ รักชนก รอดคุก! ศาลให้ประกันตัว 5 แสนบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้มีเหตุให้ต้องลุ้นระทึกสำหรับ สส.ไอซ์ รักชนก ศรีนอก และชาวพรรคก้าวไกล เนื่องจากศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิดและถูกจำคุกแม้แต่นาทีเดียว ก็จะหลุดจากตำแหน่ง สส.ทันที

สส.ไอซ์ รักชนก ปรากฏตัวที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อม นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่มาเป็นกำลังใจและร่วมฟังคำพิพากษาในคดีที่ สส.ไอซ์ รักชนก ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากการรีทวีตโพสต์ทวิตเตอร์ในปี 2563 ที่กล่าวถึงการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลที่มีการอ้างถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อมา ศาลได้อ่านคำพิพากษาลงโทษจำคุก สส.ไอซ์ เป็นเวลา 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งทาง สส.ไอซ์ รักชนก และทีมทนายขอสู้ต่อในชั้นอุทธรณ์ ทำให้ต้องลุ้นกันต่อว่า จะได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดีหรือไม่ สุดท้ายศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์วงเงิน 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยกระทำการหรือร่วมกิจกรรมลักษณะเดียวกันกับข้อหาตามคำฟ้องและหรือมีพฤติการณ์ใด ๆ ในลักษณะและข้อหาเดียวกัน โดย นายชัยธวัช ได้ใช้ตำแหน่ง สส.วงเงิน 200,000 บาท บวกกับหลักทรัพย์ 300,000 บาท ในการประกันตัว

หลังทราบผลการขอปล่อยตัวชั่วคราว สส.ไอซ์ รักชนก ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน ระบุว่า ไม่ได้มีความกังวลตั้งแต่แรก ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด และไม่ว่าจะเป็นหรือไม่ได้เป็น สส. ต่อก็ยังสามารถทำหน้าที่ได้ นอกจากนี้ ยังได้เรียกร้องสิทธิประกันตัว ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน สำหรับผู้ต้องหามาตรา 112 คนอื่น ๆ ด้วย ไปฟัง สส.ไอซ์ กันหน่อย

ในวันเดียวกัน ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาคดีจัดกิจกรรมม็อบ 2 ธันวา ไล่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112, ฐานร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความสะดวกในการจราจร มาตรา 116 คดีนี้มีจำเลยเป็นแกนนำคณะราษฎร 7 คน แต่ที่มีการนัดฟังคำพิพากษาครั้งนี้มีเฉพาะ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ คนเดียวเนื่องจากกลับคำให้การเป็นรับสารภาพเมื่อช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา และศาลเห็นว่ากระทำผิดตามฟ้อง ให้จำคุก 6 ปี และปรับ 22,200 บาท แต่เนื่องจาก นายชินวัตร ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 11,100 บาท

สำหรับ นายชินวัตร เคยเป็นนักกิจกรรม เคลื่อนไหวร่วมกับแกนนำหลายคน เช่น ทนายอานนท์, แพน กวิ้น, ไมค์ หรือ รุ้ง เป็นต้น แต่ต่อมาเปลี่ยนท่าทีอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติที่เสนอพลเอกประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือเข้าร่วมรับเสด็จเพื่อแสดงความจงรักภักดีอย่างเต็มที่ แต่ถึงกระนั้น นายชินวัตรก็ต้องนอนคุกด้วยคดี 112 อยู่ดี โดยยังไม่มีการยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวจากคดีที่มีคำตัดสินล่าสุด