แค่ไม่ชอบขี้หน้า รุ่นพี่ ม.5 ตบน้อง ม.2 จ.นครราชสีมา
เช้านี้ที่หมอชิต - ผู้ปกครองนักเรียนหญิง ชั้น ม.2 หอบคลิปร้องขอความเป็นธรรม ลูกสาวถูกรุ่นพี่ ชั้น ม.5 ตบตี โดยมีแม่รุ่นพี่ ยกโขยงคนมาเชียร์ลูกตบ สั่งใครห้ามยุ่ง
แค่ไม่ชอบขี้หน้า รุ่นพี่ ม.5 ตบน้อง ม.2 จ.นครราชสีมา
คลิปเหตุการณ์นักเรียนหญิงชั้น ม.2 ถูกรุ่นพี่ชั้น ม.5 ทำร้ายร่างกาย ทั้งจิกหัว ใช้เท้าถีบอก ตบหน้า ตบหัว ตบหลังหลายครั้ง บังคับให้กราบขอโทษถึงจะยอมจบเรื่อง ซึ่งในคลิปจะได้ยินเสียงเพื่อนของน้อง ม.2 ตะโกนบอกให้เข้าแยกทั้งคู่
แต่ถูกแม่ของรุ่นพี่เข้าห้าม สั่งไม่ให้ใครมายุ่ง แถมยังยกโขยงคนมาเชียร์ลูกตบรุ่นน้อง บริเวณเขื่อนข่อยงามบ้านหัวถนน ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ช่วง 18.00 น. ของวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุ ผู้ปกครองรุ่นน้อง ม.2 นำคลิปเป็นหลักฐานแจ้งความตำรวจ และร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว เพราะกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม
ผู้เสียหาย บอกว่า ไม่เคยมีเรื่องกับรุ่นพี่มาก่อน จู่ ๆ นัดให้ไปเคลียร์กัน อ้างไม่ชอบขี้หน้า และยังข่มขู่ถ้าไม่ไปตามนัด เจอที่ไหนจะตบจะกระทืบทันที ด้วยความกลัวจึงไปตามนัด แต่พาเพื่อนไปด้วย เมื่อไปถึงถูกรุ่นพี่ตบตีแบบไม่ทันตั้งตัว เพื่อนไม่กล้าช่วยเพราะอีกฝ่ายมีทั้งผู้ปกครอง และกลุ่มเพื่อนมากันเยอะ
ขณะที่ ผู้ปกครองผู้เสียหาย บอกว่า เห็นคลิปแล้วทำใจไม่ได้ แทนที่ผู้ใหญ่จะห้าม กลับยุยงส่งเสริมเด็กใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด
โรงเรียนตั้งบทลงโทษรุ่นพี่ ม.5 ตบรุ่นน้อง จ.นครราชสีมา
ล่าสุด ผู้อำนวยการโรงเรียน เชิญตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศบาลสังกัดกองการศึกษา ครูประจำชั้น รวมไปถึงผู้ปกครองผู้เสียหายประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ทางโรงเรียนจะสอบสวนเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ พร้อมยืนยันจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีกทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน
ส่วนคดีความให้ผู้ปกครองไปดำเนินการตามกระบวนกฎหมาย จะมีบทลงโทษตั้งแต่ 1.ว่ากล่าวตักเตือน 2.ทําทัณฑ์บน 3.ตัดคะแนนความประพฤติ 4.ทํากิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และ 5.ให้ย้ายโรงเรียน
หลังประชุมกันเสร็จแล้ว ผู้ปกครองเตรียมตัวจะกลับบ้าน ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ผู้หญิงกองการศึกษาฯ ได้ปะทะคามรมกับญาติผู้เสียหาย เรื่องแจ้งผู้สื่อข่าวให้มาทำข่าว จนรองผู้อำนวยการโรงเรียนต้องเข้าห้ามทัพ
สำหรับรุ่นพี่ ม.5 ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ไม่ได้มาเรียนอีกเลย ซึ่งครูประจำชั้นจะเดินทางไปพบที่บ้านสอบถามข้อเท็จจริง เพื่อกำหนดบทลงโทษต่อไป
