ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ เจ้าชายสิทธัตถะ เกิดแล้วเดินได้ 7 ก้าว


เจ้าชายสิทธัตถะ เกิดแล้วเดินได้ 7 ก้าว มีดอกบัวผุด อธิบายด้วยวิทยาศาสตร์เวลาเด็กคลอดด้วยท่าเอาเท้าออก เมื่อเท้าสัมผัสพื้นจะขยับเท้าอัตโนมัติ เรียกว่า stepping reflex ทำให้ดูเหมือนการก้าว มนุษย์มีอารยธรรมโซเชียลได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เราใช้โทรศัพท์มือถือได้เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่ใช่เพราะการเชื่อมจิต

ดรามาเชื่อมจิต วันนี้ (18 ธ.ค.66) นพ.สมรส พงศ์ละไม ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในประเด็น “เจ้าชายสิทธัตถะ เกิดแล้วเดินได้ 7 ก้าว มีดอกบัวผุด จริงหรือเปล่า? ปาฏิหารย์ vs วิทยาศาสตร์”  โดยระบุว่า ในทางการแพทย์เรียกการคลอดเอาเท้าออกว่าเป็นท่า footling breech presentation กรณีนี้แม่จะเสี่ยงต่อการเสียเลือดและติดเชื้อเพิ่มกว่าท่าปกติที่เอาหัวออก (cephalic presentation) เพราะอาจติดแขนเด็ก ทำให้บาดเจ็บ เสียเลือดได้มากกว่าปกติ

หมอสมรส ระบุด้วยว่า ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม แม่ก็เสียชีวิตได้ใน 5-7 วัน เพราะเสียเลือด (hypovolumic shock) หรือติดเชื้อ (septic shock) ในสมัยก่อนการคลอดลูกเสี่ยงสูงมากที่แม่หรือลูกจะตาย ในทางการแพทย์เราพูดกันว่าโอกาสตาย 50/50 ซึ่งมารดาเจ้าชายก็เสียภายใน 7 วัน ไม่มี ICU ไม่มีการให้เลือด ไม่มียาฆ่าเชื้อ

การเดินได้ 7 ก้าว คือ เวลาเด็กคลอดท่าเอาเท้าออก เมื่อเท้าสัมผัสพื้นก็จะขยับเท้าอัตโนมัติเรียกว่า stepping reflex ทำให้ดูเหมือนการก้าว
ดอกบัวผุด คือ เวลาลูกกษัตริย์เกิดในป่า ทางวังจะเตรียมอุปกรณ์หลายอย่างที่แสดงถึงความบริสุทธิ์และการเกิดใหม่ของเทพ หนึ่งในนั้นคือ ผ้าขาว ดอกไม้ เครื่องหอม ใบบัว และดอกบัว จะกี่ดอกขึ้นกับพราหมณ์หลวง ดังนั้นจังหวะที่ footling breech และขาแตะพื้นเกิด stepping reflex จึงดูเหมือนก้าวเดินบนดอกบัว

หมอสมรส ระบุด้วย 2,000 ปีก่อน ทุกศาสนาล้วนสร้างอภินิหารให้คนเชื่อ ในพระไตรปิฎกก็มีการแต่งเติมข้อความไปมากกว่าคำพุทธเจ้า 70% ไม่แปลกที่จะใส่อภินิหารเข้ามา แต่สิทธัตถะเป็นแค่เด็ก ไม่ใช่พุทธเจ้า ยังไม่มีฤทธิ์ใดๆ ชื่อเจ้าชายสิทธัตถะก็ปรากฏแค่ในพระไตรปิฎก 2 เล่ม เป็นคำบอกเล่ามาจากพระรูปอื่น มิได้มาจากปากพระพุทธเจ้า เรื่องนี้ไม่มีใครเกิดทัน ไม่มีหลักฐาน และไม่เป็นไปเพื่อปัญญาหรือการหลุดพ้น เหมือนอธิบายเรื่องควอนตัมฟิสิกส์ก็ไม่ทำให้คนทั่วไปอิ่มท้องได้

ยุคนี้เป็นยุคของปัญญานำศรัทธา ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว มักเรียบง่าย ตรงไปตรงมา กรณีนี้ นพ. สมรส ให้ความเห็นว่า  ส่วนตัวตนเป็น Scientific Buddhism เชื่อว่ามนุษย์มีอารยธรรมโซเชียลทุกวันนี้ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เพราะไสยศาสตร์ เราใช้โทรศัพท์มือถือได้เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่ใช่เพราะการเชื่อมจิต 

“ยามที่ผู้คนยามลำบากจิตใจท้อแท้ ก็จะหวังพื่งพาน้ำวิเศษ หินวิเศษ คนวิเศษเพื่อให้ตนเองสบายใจ แต่สุดท้ายความคิดเช่นนี้จะกลับมาทำร้ายตัวเอง และขัดขวางความเจริญของตนเองและประเทศชาติ พระพุทธเจ้ากล่าวว่ามิจฉาทิฐิเหล่านี้ ขัดขวางการหลุดพ้น”

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark