ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ลุ้นศาลตัดสินคดี น้องชมพู่ วันนี้

สนามข่าว 7 สี - อีกไม่กี่ชั่วโมงศาลจังหวัดมุกดาหาร ก็จะเริ่มตัดสินคดีน้องชมพู่ เชื่อว่าหลายคนรอคอยความจริงมานานกว่า 3 ปี ว่าแท้จริงแล้ว ใครเป็นคนฆาตกรรม น้องชมพู่ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ บนภูเหล็กไฟ ในบ้านกกกอก เป็นฝีมือของ ลุงพล และ ป้าแต๋น ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่ โดยศาลนัดให้ทั้งฝั่งจำเลย และโจทย์ เข้ารับฟังคำตัดสินในช่วง 10.00 น. จะถึงนี้ บรรยากาศเป็นอย่างไร ไปติดตามกับคุณชนะชัย แก้วผาง รายงานสดมาจากหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร

ตอนนี้ทีมข่าวปักหลักรายงานข่าวกันอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของศาลจังหวัดมุกดาหาร แม้ว่าในช่วงปลายเดือนตุลาคมจะมีการเลื่อนอ่านคำพิพากษามาเป็นวันนี้ เชื่อว่าน่าจะไม่มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาอีกแน่นอน เพราะหากมีการเลื่อนศาลก็จะแจ้งให้ฝั่งโจทย์ และจำเลยทราบ ดังนั้นวันนี้ เราน่าจะรู้ผลคำพิพากษาคดีน้องชมพู่ ที่รอคอยมานานกว่า 3 ปี โดยการพิพากษาคดีจะมีขึ้นในช่วง 10.00 น.จะถึงนี้ เดี๋ยวอีกสักครู่ ฝั่งจำเลย คือ ลุงพล และ ป้าแต๋น พร้อมทีมทนายความก็คงเดินทางมาที่ศาล เช่นเดียวกับครอบครัวของโจทก์อย่างครอบครัวน้องชมพู่ แน่นอนว่า ขณะนี้มีสื่อมวลชนและกลุ่มยูทูบเบอร์บ้านกกกอกมาเกาะติดการพิพากษา เดี๋ยวจะพาไปย้อนดูบรรยากาศเมื่อวานนี้ ที่บ้านกกกอก ว่าทั้งฝ่ายจำเลย และฝ่ายโจทก์ในคดีนี้ เขาทำอะไรกันบ้าง

เริ่มกันที่ฝ่ายของครอบครัวน้องชมพู่กันก่อน ทั้ง นายอนามัย และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา พ่อแม่น้องชมพู่ ได้เดินทางไปที่วัดป่าภูผาแอก ในบ้านกกกอก อำเภอดงหลวง เพื่อทำความสะอาดบริเวณเจดีย์ หรือธาตุเก็บกระดูก พร้อมจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณของลูกสาวว่า วันนี้ศาลจะตัดสินแล้ว ถ้าเขาเป็นคนทำลูก และทุกคนก็จะได้รู้ ได้เห็นความจริง ลูกจะได้ไปสบาย มีความสุข ใครทำก็ขอให้ได้รับกรรม ขอให้ลูกได้ไปสวรรค์

นางสาวิตรี เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะไม่ว่าศาลจะตัดสินออกมายังไง ก็จะเคารพคำตัดสิน ทางครอบครัวรับได้ทุกอย่าง ไม่ได้เจาะจงว่าจะชี้ให้คนนี้เป็นคนร้ายให้ได้ เชื่อตามหลักฐาน เชื่อที่ตำรวจ และระบบยุติธรรมทำงาน หากศาลยกฟ้อง ก็มีการอุทธรณ์ฎีกาตามขั้นตอนเหมือนทุกคดี หากศาลพิพากษาเอาผิดจำเลย ก็จะปรึกษาทนายความและอัยการ เพื่อคัดค้านการประกันตัว

ด้าน นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น จำเลย 2 คน ในคดีน้องชมพู่ เดินทางมาแวะพักที่บ้านกกกอก เมื่อวานนี้ โดย ลุงพล เปิดเผยว่ายังคงมั่นใจเหมือนเดิมล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือทำอะไรให้เกิดเหตุแบบนั้น หากศาลตัดสินว่าผิด ก็ต่อสู้ไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งได้ปรึกษาทนายความ และบริษัทประกันเตรียมการไว้แล้ว เพื่อประกันต่อออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ในขั้นตอนการสืบพยาน ไม่มีพยานบุคคล หรือหลักฐานอื่นที่เหนือความคาดหมาย แม้จะมีพยานอ้างว่า เห็นตนในพื้นที่ที่สามารถไปจุดเกิดเหตุได้ ไม่หนักใจ เพราะเป็นแค่เรื่องบอกเล่าหลักฐานที่จะทำให้ตนชนะคดี ไม่มีอะไรพิเศษ แค่สู้และนำสืบไปตามความจริงที่เกิดขึ้น

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark