สุดหดหู่! เมียป่วยติตเตียง-สามีขาติดเชื้อ เสี่ยงถูกตัดขา ตัดสินใจผูกคอลาโลกทั้งคู่

เมียป่วยติตเตียง ไปไหนไม่ได้มากว่า 6 ปี ส่วนสามีขาติดเชื้อ เสี่ยงโดนตัดขา ตัดสินใจผูกคอลาโลกทั้งคู่ภายในบ้านเช่า ที่ ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

25 ธ.ค. 66 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ต รักชาติ ประสบผล สว.( สอบสวน) สภ. นครหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการผูกคอ 2 คน เหตุเกิดในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้น ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุพบเป็นห้องเช่าชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน ใช้เชือกไนลอนสีเขียวผูกกับฝ้าเพดาน ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้หญิง ใช้เชือกไนลอนผูกกับลูกกรงหน้าต่าง เสียชีวิตอยู่ใกล้กัน และยังพบบันไดสแตนเลสและรถเข็นอยู่ใกล้ร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายชาญ อายุ  75 ปี และนางพรรณี ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน  ซึ่งจากการชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชั่วโมง

โดยนายสุวรรณ  อายุ 78 ปี เป็นพี่ชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องชายของตนเอง ก่อนหน้ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ส่วนภรรยาน้องชาย มีอาชีพขายข้าวแกง แต่ระยะหลังภรรยาน้องชายมีอาการป่วยและติดเตียงนานกว่า 6 ปี  จนน้องชายต้องทำมาหากินเป็นเสาหลักของครอบครัว  พอมาระยะหลัง ประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา น้องชายมีอาการปวดที่บริเวณขาข้างซ้ายแล้วมีหนองที่ขา จึงไปหาหมอ ซึ่งหมอบอกว่าแผลมีอาการติดเชื้อ หากรักษาไม่ดีอาจต้องถูกตัดขา ทำให้เกิดภาวะความเครียด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ออกไปทำงานเพราะว่าเดินไม่ค่อยได้ จึงต้องทำให้มีภาระเกี่ยวกับค่าเช่า และก็ต้องจ้างคนออกไปซื้ออาหาร เนื่องจากไปไหนกันไม่ได้ทั้งคู่

จนกระทั่งเมื่อวานตอนเย็น ได้โทรศัพท์มาหาตนเองว่าอยากกินน้ำพริกปลาร้า และแกง 2 ถุง และบอกให้มาเอาเครื่องมือช่างกลับไป ตนก็ซื้อมาให้เมื่อช่วงเย็น ซึ่งน้องชาย ก็นั่งกินไปร้องไห้ไปด้วย ตนจึงถามว่าเป็นอะไร น้องชายบ่นว่าอยากตาย ตนเองก็ได้แต่ปลอบใจ และจนกระทั่งตอนเช้าตนเองได้มาซื้อนมและกาแฟมาให้ และก็จะมาเอาเครื่องมือ มาถึงยังไม่เห็นน้องชายเปิดประตูห้อง จึงได้เอะใจและเปิดประตูเข้าไป ก็แทบช็อกเมื่อเห็นสภาพน้องชายและภรรยา ใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตทั้งคู่ ไม่คิดว่าน้องชายจะมาผูกคอเสียชีวิต

ทางด้าน นายอรรณพ อายุ 45 ปี (เพื่อนบ้าน) บอว่าตนเองรู้จักกับป้าและลุงมาตั้งแต่ป้ายังขายข้าวแกงอยู่ ตอนนั้นตนเองเรียนหนังสือก็จะมากินข้าวร้านป้าอยู่ทุกวัน จนกระทั่งมีความผูกพัน พอมาระยะหลังป้าเกิดล้มป่วย ตนเองก็รู้สึกสงสารจึงได้ยื่นมือช่วยเหลือมาโดยตลอด พอมาระยะหลัง สามีป้าก็ล้มป่วยเดินไม่ได้ ตนเองก็จะคอยโทรศัพท์ถามข่าวคราว และก็คอยให้เงินเพื่อจะเอาไปหาหมอ จนกระทั่งล่าสุด ลุงป่วยหนักและบ่นว่าอยากตาย อยากผูกคอตาย ตนเองก็ปลอบใจทั้งสองคนมาโดยตลอด จนมาเกิดเหตุสลดครั้งนี้

ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน ได้ถ่ายรูปบริเวณจุดเกิดเหตุ และเป็นที่น่าหดหู่เนื่องจากสันนิษฐานว่า นายชาญ ซึ่งเป็นสามีใช้เชือกไนลอนผูกคอภรรยาขณะอยู่บนเตียง แล้วนำเชือกไปผูกไว้บริเวณขอบหน้าต่าง จากนั้นดันร่างภรรยาลงจากเตียงจนเชือกตึงแล้วเสียชีวิต จากนั้น ปันบันไดนำเชือกไนลอนไปผูกกับบริเวณฝ้าเพดาน ก่อนจะทิ้งร่างตนเองลงมาจนเสียชีวิต  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ประสานญาติก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัยอยุธยานำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานีต่อไป