ม.ค. 67 ลุ้น 2 คดี ชี้ชะตา พิธา-ก้าวไกล
สนามข่าว 7 สี - ปีหน้าเขาบอกว่าเป็นปีมังกรทอง แต่สำหรับบางคนและบางพรรค อย่างคุณพิธา และพรรคก้าวไกล ยังต้องลุ้นจะได้เป็นมังกรทอง หรือแปรสภาพเป็น "งูดิน" เพราะมีคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตาในเดือนมกราคมถึง 2 คดีด้วยกัน
ม.ค. 67 ลุ้น 2 คดี ชี้ชะตา พิธา-ก้าวไกล
คดีแรกเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ปมถือหุ้นสื่อฯ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยนวันที่ 24 มกราคม ซึ่งเรื่องนี้ถ้าจบแบบลบ ไม่เป็นผลดีกับคุณพิธา ก็ยังเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่อาจไม่ลามไปถึงพรรค คือคุณพิธา ก็จะไม่ได้ไปต่อในการเป็น สส.คราวนี้
ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า ยังลงสมัครได้ เพราะหุ้นไอทีวีไม่มีแล้ว สละไปเรียบร้อยหลังเกิดปัญหา แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าไม่ผิด คุณพิธาก็จะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ สส.ต่อ หลังถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไป
จากนั้นก็ต้องตามต่อว่าภายในพรรคก้าวไกล จะมีการปรับเปลี่ยน ขยับให้คุณพิธา กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนคุณชัยธวัช ตุลาธน ที่ตอนนี้ก็ถูกมองว่าเป็นหัวหน้าพรรคขัดตาทัพอยู่หรือเปล่า โดยจะมีวาระพิจารณาเปลี่ยนแปลงผู้บริหารได้อีกในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีช่วงเดือนเมษายนปีหน้า ซึ่งคุณพิธาเอง ก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ บอกขอผลฟังผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน และทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมด้วย
ส่วนอีกคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งไต่สวนจบไป กรณีคุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร ร้องให้ไต่สวนว่าการหาเสียงยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้ทั้งตัวผู้ร้องไปฟังการไต่สวนด้วย ส่วนคุณพิธาและคุณชัยธวัช ได้ไปแถลงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายต่อศาลฯด้วย ซึ่งทั้งคู่ต่างก็แสดงความมั่นใจจะผ่านด่านนี้ไปได้ ไม่ถึงยุบพรรค เต็มที่ก็แค่ศาลฯมีคำสั่งให้หยุดการกระทำ
หลังศาลไต่สวนจบ นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 31 มกราคม ก็เรียกว่าเป็นสัปดาห์ถัดจากคดีหุ้นสื่อฯของคุณพิธาเลย แต่คดีนี้ถ้าศาลฯชี้ว่ามีความผิดตามคำร้อง มีหนาวแน่ ๆ เพราะอาจพันไปถึงสถานภาพของพรรคก้าวไกล ที่อาจถูกยุบพรรคได้ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรรอลุ้นจบทั้ง 2 คดีในเดือนมกราคมปีหน้า
ทักษิณ ลุ้นรับอิสรภาพปีหน้า
ปฏิทินร้อนการเมืองปีหน้า ไม่ได้มีแค่เรื่องร้อนของพรรคก้าวไกลกับคุณพิธาเท่านั้น ยังมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับอิสรภาพของคุณทักษิณ ชินวัตรด้วย เพราะในตอนนี้ก็น่าจะชัดเจนแล้ว ว่าจะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจต่อ แม้ว่าจะเกินเวลา 120 วันไปแล้วก็ตาม
แต่ไทม์ไลน์ต่อจากนี้น่าสนใจ เนื่องจากในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีหน้า คุณทักษิณจะต้องโทษครบ 180 วัน หรือ 6 เดือน เข้าเกณฑ์ที่จะขอพักโทษใส่กำไลอีเอ็มไปคุมขังนอกเรือนจำได้ ตอนแรกคนก็ลุ้นกันเฉพาะขยักนี้ แต่เมื่อระเบียบใหม่การคุมขังนอกเรือนจำออกมา ก็พูดกันเยอะว่าคุณทักษิณ อาจได้รับอิสรภาพเร็วกว่าเดือนกุมภาพันธ์ และไม่ต้องไปขอพักโทษด้วย เนื่องจากจะขึ้นอยู่กับคณะทำงานพิจารณาปล่อยตัว
ซึ่งก่อนหน้านี้คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ ก็ออกมาฟันธงไปแล้วว่า คุณทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับอานิสงส์จากระเบียบนี้แน่นอน แต่ย้ำว่าระเบียบออกมาเป็นการทั่วไป ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับคุณทักษิณ
