ศาลฎีกานักการเมือง ยกฟ้อง-เพิกถอนหมายจับ ยิ่งลักษณ์ ชี้ ไม่มีเจตนาพิเศษเด้ง ถวิล

รอดคุก ศาลฎีกานักการเมือง มติเสียงข้างมาก ยกฟ้อง-เพิกถอนหมายจับ ยิ่งลักษณ์ คดีเด้ง “ถวิล” พ้น เลขา สมช. ชี้ โยกย้ายตามระเบียบ ไม่มีเจตนาพิเศษสร้างความเสียหาย ขณะที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ-ศาลปกครองสูงสุด ไม่มีผลผูกพัน

วันนี้ (26 ธ.ค.66) ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม. 11/2565 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีคำสั่งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในขณะนั้น ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีโดยมิชอบ หลังจากที่เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง


คดีดังกล่าว นายถวิล ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้าย ต่อมา ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดในการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในวันที่ 1 ก.ค.63 และส่งให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยอัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้อง และศาลฎีกาฯ ได้ออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์

โดยวันนี้ องค์คณะตุลาการ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีมติเสียงข้างมาก ยกฟ้อง และเพิกถอน หมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำร้องดังกล่าวเป็นคนละประเด็น กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และ คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จึงไม่มีผลผูกพันกัน ศาลฎีกาฯ มีความเห็นว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้าย โดยไม่ได้มีเจตนาพิเศษที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดให้กับนายถวิล

ขณะเดียวกันการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นไปตามระเบียบ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว ตั้งแต่สมัย พลโทสุรพล เถื่อนอัยกา อีกทั้งการไต่สวนยังพบว่าไม่มีเจตนาสมคบคิดกันในการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล แม้จะเป็นการดำเนินการในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 4 วัน แต่เป็นการดำเนินการเพื่อให้ทันเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้ง และถือเป็นไปตามปกติ ไม่พบพิรุธที่จะส่อให้เห็นถึงการทุจริตต่อหน้าที่ ที่จะเสนอให้พล.ต.อ. เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น