ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

พ่อร้องช่วยคดีลูกสาว นศ.ปี 1 คณะพยาบาลฯ พลัดตกหอพักเสียชีวิต

ห้องข่าวภาคเที่ยง - พ่อร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว นักศึกษาปี 1 คณะพยาบาล หลังพลัดตกตึกหอพักภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีเงื่อนงำ คดีนี้ผ่านมา 5 เดือน แล้ว แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะคล้ายกับกรณีนักศึกษาปริญญาเอก ที่พลัดตกแมนชันเสียชีวิต จึงอยากขอให้ตำรวจช่วยเร่งรัดพิสูจน์ความจริงด้วย

ผู้ที่มาร้องขอความช่วยเหลือ คือ นายเพชร และ นางกิ่ว พ่อและแม่ของ นางสาวกรกช นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาล มหวิทยาลัยมหิดล ที่อยากขอให้เพจสายไหมต้องรอด ช่วยประสานตำรวจ เร่งรัดผลการตรวจสอบพิสูจน์ข้อเท็จจริง จากเหตุการณ์ที่ลูกสาวของทั้ง 2 คน พลัดตกหอพักนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยอย่างมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา

พ่อของนักศึกษาที่เสียชีวิต บอกว่า ปกติลูกสาวเป็นคนร่าเริง ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ยังไปหาลูกสาวพาไปทานข้าวกัน และในวันเกิดเหตุแม่ยังโทรศัพท์ไปพูดคุยตอน 09.00 น. แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ชั่วโมง ทางมหาวิทยาลัยโทรมาแจ้งว่า ลูกสาวกระโดดตึกเสียชีวิต พอจะขอดูภาพวงจรปิด ทางมหาวิทยาลัยก็แจ้งว่า "หอพัก 11" ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดเสียทั้งหมด ผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ยอมชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จนถึงตอนนี้ เวลาผ่านไป 5 เดือน แล้ว ทั้งมหาวิทยาลัย และตำรวจ ไม่เคยให้ข้อมูลใด ๆ ว่าผลการตรวจสอบคืบหน้าไปถึงไหน ลูกสาวเสียชีวิตได้อย่างไร

ข้อมูลที่ปรากฏจากตำรวจ มีเพียงบันทึกประจำวันที่พนักงานสอบสวนลงไว้ว่า ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นซึมเศร้าจึงฆ่าตัวตาย ทั้งที่ไม่มีหลักฐานการเข้ารับการรักษาใด ๆ จากแพทย์ และผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ แพทย์ก็ระบุว่าไม่พบตัวยารักษาอาการซึมเศร้าในร่างกาย ยังไม่รู้แน่ชัดว่า ลูกสาวตกลงมาจากจุดไหน ชั้นที่เท่าไร โทรศัพท์ไปสอบถามความคืบหน้ากับเจ้าของคดีก็ไม่รับสาย

ส่วนแม่ของนักศึกษาที่เสียชีวิต เล่าว่า ทราบเพียงว่าลูกสาวมีปัญหาเรื่องที่เป็นกรรมการหอพัก อยากจะถอนตัวออก แต่คณะกรรมการคนอื่นไม่ยอม ส่วนเรื่องความขัดแย้งอื่นนั้นไม่มี

นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า เรื่องนี้คล้ายมีความพยายามต้องการปกปิดพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งหลังจากนี้จะช่วยประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ให้ช่วยดูคดีนี้ และจะพาไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อหาหนทางช่วยเหลือเยียวยา รวมถึงจะขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และหาทนายความ ช่วยเหลือทางคดีด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark