เกือบเผาผิดคน คนตาย สวมบัตรประจำตัวประชาชน คนเป็น จ.นนทบุรี
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปดูเหตุวุ่น ๆ ที่จังหวัดนนทบุรี เมื่อทีมเพจช่วยเหลือศพยากไร้ ได้รับการประสานขอโลงศพ แต่ปรากฎว่าเมื่อเดินทางไปที่วัด พบชื่อหน้าศพ กับบัตรประจำตัวประชาชน คนละชื่อกัน เมื่อตรวจสอบพบว่าชื่อตามบัตร เป็นคนละคนและยังไม่เสียชีวิต จนตำรวจต้องระงับการเผาศพ
โดยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยนายทักษพร พรมสากุล อายุ 23 ปี ทีมเพจช่วยเหลือศพยากไร้ หลังได้รับการประสานขอความช่วยเหลือขอโลงศพ และดอกไม้หน้าศพผ่านพี่สาว ต่อมาตนเองก็ได้นำโลงศพ และดอกไม้ไปส่งที่วัดแห่งหนึ่ง โดยนายจ้างของผู้เสียชีวิต บอกว่าชื่อหน้ารูปศพ (นายจอม เหล่ากลม) กับชื่อตามบัตรประชาชน คือนายจิตรกร เศษมาก อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 9 ตำบลดอนกอก อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่นำไปลงในเพจไม่ตรงกัน ตนจึงได้ตรวจสอบจนพบว่า ชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชนนั้นยังเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ และยังอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ จึงแจ้งให้พี่สาวทราบ และเชื่อว่าคนตายอาจสวมบัตรประชาชน
นายทักษพร กล่าวอีกว่า หลังจากทราบข้อเท็จจริง จึงให้นายจ้างของผู้เสียชีวิตไปติดต่อที่โรงพยาบาลไทรน้อย เพื่อขอเปลี่ยนชื่อในใบแจ้งตาย แต่โรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถเปลี่ยนชื่อได้ เนื่องจากต้องมีเอกสารยืนยันตัวตนจริง จึงแนะนำให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ไทรน้อย เบื้องต้นตำรวจได้สั่งระงับการเผาศพ เพื่อติดต่อตามหาญาติตัวจริง เพราะหากนำศพไปเผาแล้วจะไม่รู้ว่าเป็นศพใคร อาจโดนคดีข้อหาอำพรางศพได้ จะต้องพิสูจน์จนกว่าจะรู้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร
ด้านนายบุญส่ง ทุนมัน อายุ 37 ปี นายจ้างของผู้เสียชีวิต ก็ได้เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.ไทรน้อย เพื่อให้ปากคำ พร้อมระบุว่า หลังผู้เสียชีวิตมีอาการเจ็บหน้าอกหายใจไม่ออก จึงพาไปส่งโรงพยาบาลไทรน้อย เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา แพทย์ตรวจร่างกายแล้วแจ้งว่าคนไข้ป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง จนเสียชีวิตในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 โรงพยาบาลจึงได้ออกหนังสือรับรองการตายให้ โดยระบุสาเหตุติดเชื้อในกระแสเลือด จากจึงนำศพไปทำพิธีทางศาสนาที่วัด โดยระหว่างนั้นก็ได้บอกให้แม่ของตนช่วยตามหาญาติ จนกระทั่งวันที่ 3 มกราคม แม่ของตนโทรมาบอกว่า คนชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชนผู้ตาย ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตนจึงมั่นใจผู้เสียชีวิตน่าจะสวมบัตรประจำตัวประชาชน เพื่ออ้างเป็นตัวเองมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และใช้สิทธิต่าง ๆ ตอนที่ผู้ตายมาสมัครงานก็ได้ยื่นเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าว ตนจึงรับไว้เป็นแรงงานก่อสร้าง
นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า ผู้ตายเคยบอกกับตนว่า เขามีชื่อเล่นว่า จอน จึงให้เขียนชื่อรูปหน้าศพใหม่ว่าชื่อจอน ส่วนนามสกุลเหล่ากลม เป็นนามสกุลของภรรยาตน ที่ไม่ค่อยมีญาติ แต่ถ้าใช้นามสกุลตน คนที่ทราบข่าวจะต้องสอบถามกันมาก ตอนแรกตนไม่ได้คิดอะไรต้องการเผาศพเขาให้เสร็จสิ้น แต่ทางตำรวจแจ้งว่าอาจโดนข้อหาอำพรางศพ เลยต้องยกเลิกงานทั้งหมด จากที่ตามกำหนดการเดิมคืนวานนี้ (3 ม.ค.) จะสวดอภิธรรมเป็นคืนแรก
หลังจากนี้ตำรวจ สภ.ไทรน้อย จะประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจสอบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร โดยจะนำศพไปเก็บไว้เป็นศพไร้ญาติ เพื่อรอญาติตัวจริงมาแสดงตัวต่อไป
