รวบนักธุรกิจจอมลวงโลก หลอกลงทุนสารพัด

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจกองปราบปราม ตามรวบนักธุรกิจชื่อดังจอมลวงโลก หลอกลงทุนสารพัดมาแล้วอย่างโชกโชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศ ไปหลอกนักธุรกิจอัญมณีให้ร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอัญมณีแบบครบวงจร จนสูญเงินไปกว่า 22 ล้านบาท

ผู้ต้องหารายนี้คือ นายรวีโรจน์ อายุ 57 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม" โดยจับกุมได้ที่ห้องพักของโรงแรมย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา แขวงและเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ของคดีนี้ คือเมื่อประมาณปี 2558 นายรวีโรจน์ ได้ร่วมกับพวกหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งเป็นนักธุรกิจอัญมณี ให้มาร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมอัญมณีแบบครบวงจร โดยผู้ต้องหาแอบอ้างว่าตนเองเป็นกลุ่มนายทุน เจ้าของบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง มีเงินฝากในธนาคารต่างประเทศ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 200,000 ล้านบาท และพร้อมจะให้เงินสนับสนุนกับผู้เสียหาย 1,000 ล้านบาท หากผู้เสียหายมาร่วมลงทุนกับกลุ่มผู้ต้องหา

แต่ก่อนที่ผู้เสียหายจะได้รับเงินสนับสนุน ผู้เสียหายจะต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการนำเงินเข้ามาในประเทศไทยก่อน โดยนายรวีโรจน์ได้แอบปลอมหนังสือค้ำประกันของธนาคารชื่อดังในต่างประเทศ มาแสดงให้ผู้เสียหายเห็นว่ามีเงินอยู่จริง ปรากฏยอดเงินในบัญชีคือ 8,775 ล้านดอลล่าร์ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อโอนเงินค่าดำเนินให้กว่า 22 ล้านบาท พอถึงกำหนดนัดจ่ายเงินทุนสนับสนุน ผู้ต้องหากลับหายเข้ากลีบเมฆ 

จากการสืบสวนทราบว่า เมื่อปลายปี 2560 นายรวีโรจน์ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ แต่กลับถูกทางการประเทศแองโกลาจับกุม เพราะไปตั้งบริษัทเกี่ยวกับขายสินค้าทางการเกษตร, ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ ก็ใช้วิธีแบบเดิม คืออ้างว่ามีเงินในบัญชีต่างประเทศหลอกบริษัทฯ ในแองโกลาร่วมลงทุน สุดท้ายก็หลอกเอาเงินจนถูกจับกุม  

ต่อมาเมื่อนายรวีโรจน์ พ้นโทษจำคุกที่แองโกลาแล้ว รู้ว่าตนเองมีหมายจับ ก็แอบเดินทางเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติ ก่อนจะกลับมาก่อเหตุแบบเดิม หลอกผู้เสียหายระดมทุนในธุรกิจรถไฟความเร็วสูงที่ผู้ต้องหาจะสร้างขึ้นในประเทศไทย แลกกับผลตอบแทน 5-10 ล้านบาท ตำรวจยังสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้นัดกลุ่มนักการเมืองพรรคดังพรรคหนึ่ง มาประชุมที่โรงแรมย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา เพื่อหลอกลวงเช่นเดิม จึงนำกำลังไปจับกุม เบื้องต้นเจ้าตัวให้การปฎิเสธ