ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

แม่ส่งลูกไปบำบัดจิตเวช กลับมากลายเป็นศพ

สนามข่าว 7 สี - แม่ ส่งลูกไปรับการบำบัดรักษาอาการจิตเวช ที่ศูนย์บำบัดแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่ ได้เพียง 18 วัน กลับมากลายเป็นศพ ใบรับรองการเสียชีวิต ไม่มีการระบุสาเหตุการเสียชีวิต ตามร่างกายพบรอยฟกช้ำตามร่างกาย แม่เชื่ออาจถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

เป็นกรณีมีผู้เสียหายได้โพสต์ภาพและข้อความ ลงในเพจ อยากดังเดี๋ยจัดให้รีเทริน์ part6 เพื่อขอความเป็นธรรม หลังส่งน้องไปบำบัดอาการจิตเวช กลับมาอีกทีในสภาพเป็นศพ ฟกช้ำหลายจุด ท้ายทอย ลิ้นปี่ แผ่นหลัง สีข้างมีรอยช้ำเป็นจ้ำ ก้นมีรอยไหม้ รอบลากเป็นแผลพุพอง

คำถามคือ ใครเป็นคนทำ ไปบำบัดวันที่ 18 ธันวาคม - วันที่ 5 มกราคม เสียชีวิต ตอนเย็นเจ้าหน้าที่ โทรมาบอกว่าน้องมีอาการสโตรก และอีก 20 นาที โทรมาบอกว่าน้องเสียแล้ว ใบรับรองการตายก็ไม่ลงรายละเอียด เขียนว่า ไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ เร่งให้ญาติเผาศพอีก ตอนนี้ทางญาติไปแจ้งความแล้ว ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

คุณเจมส์ ฉัตรชัย ผู้สื่อข่าวช่อง 7HD ของเราลงพื้นที่ ไปที่วัดมหาบุศย์ ซึ่งจัดงานสวดอภิธรรมศพของน้อง พบกับนางรัชนก เลาหเลิศชัย คุณแม่ของน้องโอ๊ค เปิดเผยให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุน้องป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและไบโพลาร์ ช่วงหลังน้องมีอาการหนักขึ้น จึงเกรงว่าน้องจะทำร้ายตัวเองและคนในครอบครัว จึงตัดสินใจส่งน้องไปรับการรักษา ที่ศูนย์บำบัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา

พอถึงวันที่ 5 มกราคมเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าน้องมีอาการสโตรก ให้คุณแม่รีบเดินทางไปหาน้อง แต่หลังจากนั้นเพียง 20 นาที เจ้าหน้าที่แจ้งมาอีกครั้งว่า น้องได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนเองรู้สึกช็อคเป็นอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูก และเมื่อเห็นสภาพศพมีร่องรอยฟกช้ำหลายจุด และมีรอยไหม้อีก รวมถึงไม่ระบุสาเหตุการเสียชีวิต จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงให้หายข้อสงสัย

ด้านนาย อิดริส บุหงารัตน์ ผู้อำนวยการสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ ปอเนาะเกาะศรีบอยา จังหวัดกระบี่ ยืนยันกรณีน้องโอ๊ค ไม่มีใครทำร้ายร่างกาย แต่วันเกิดเหตุ (5 ม.ค.) ระหว่างเดินไปเข้าห้องน้ำ ก็ล้มหมดสติ จนต้องนำส่งสถานพยาบาลใกล้เคียง แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือให้ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ 

ส่วนกรณีที่ตามร่างกายมีร่องรอยช้ำแดง ผอ. บอกว่า อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนย้ายน้องโอ๊คไปสถานพยาบาล หรือ อาจเกิดระหว่างที่เคลื่อนย้ายศพ มาประกอบพิธีทางศาสนาที่กรุงเทพฯ เพราะผู้ที่เสียชีวิตแล้วเลือดจะแข็งตัว จึงทำให้เกิดร่องรอยเหมือนที่เห็นในภาพ

ผอ.อิดริส ก็ยังหวังว่า ครอบครัวน้องจะเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังได้ดูคลิปภาพวงจรปิด ประกอบกับผลการชันสูตรพลิกศพ เพื่อไขข้อเท็จจริง ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ดูแลน้องโอ๊คอย่างดี และเสียใจกับครอบครัว

ผอ.ระบุว่าช่วงที่ครอบครัวนำน้องโอ๊ค มาส่งบำบัดรักษาอาการทางจิตเวช ทางสถานฟื้นฟูฯ จะไม่ขอรับน้องโอ๊คไว้ เพราะสังเกตเห็นร่างกายอ่อนแอ แต่ทางญาติขอร้อง โดยอ้างว่าน้องมีอาการทำร้ายร่างกายคนใกล้เคียง และจะฆ่าตัวตาย จึงจำเป็นต้องรับไว้ดูแล ซึ่งระยะแรก ๆ น้องมีอาการเพ้อ พูดไม่รู้เรื่องแล้ว เป็นผลพวงจากการเสพยาเสพติด ทั้งยาบ้า, กัญชา และดื่มน้ำกระท่อมมาเป็นเวลานาน 10-20 ปี เจ้าหน้าที่พยายามดูแลและให้ยารักษาตามอาการพร้อมกับให้ทำกิจกรรมเบา ๆ ตลอดกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark