คลิปที่เกี่ยวข้อง

วิจารณ์เลี้ยงแมวในที่ทำงาน

สนามข่าว 7 สี - ดรามาคณบดีสาว เลี้ยงแมวในห้องทำงาน เป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ ทั้งความเหมาะสม หลังเพจดังแฉ เปิดแอร์ให้แมวนอน

ขณะที่ ทาสแมวเห็นใจ หลังรู้ว่าเป็นแมวจรที่เก็บมาเลี้ยง ทีมข่าวได้พูดคุยกับคณบดีท่านนี้ หลังจากนี้ จะหาบ้านให้แมวใหม่

เพจเฟซบุ๊ก "ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน" โพสต์ข้อความว่า หัวจะปวด เหตุเกิดที่คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่คณบดี ได้ขนแมวของตัวเอง 4 ตัว ไปเลี้ยงให้กินนอนอยู่หน้าห้องตัวเองชั้น 3 แล้วให้เลขาคอยดูแล ต่อมาก็สั่งย้ายฝ่ายประชาสัมพันธ์ขึ้นไปไว้หน้าห้องตนเองที่ชั้นเดียวกัน อยู่ในพื้นที่คับแคบ แล้วย้ายแมวไปไว้ที่ห้องประชาสัมพันธ์​ ชั้น 1 ห้องโอ่โถงกว้างขวางแทน

เลี้ยงแมวในห้องทำงานของมหาวิทยาลัย เปิดไฟ เปิดแอร์ฉ่ำ ๆ ให้แมวทั้งวัน ทั้งคืน ปิดล็อกประตูด้านหน้าห้ามใครเข้าใช้ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลตึก คนหลวง คอยดูแลให้อาหาร เก็บอึ เก็บฉี่ ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ จากเจ้าหน้าที่ตึกก็กลายเป็นสมุนแมวที่แท้ทรูใด ๆ เรื่องนี้แมวไม่ผิด

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยัง คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร สอบถามข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวกับผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชชพร เทียบจัตุรัส คณบดีคณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยคณบดีฯ ยินดีให้ข้อมูลกับทีมข่าว แต่ขอไม่ให้สัมภาษณ์

โดยระบุว่าแมวทั้ง 4 ตัว เป็นแมวจรที่เก็บมาเลี้ยงจากบริเวณใกล้ ๆ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อช่วงประมาณ 7-8 เดือนที่แล้ว ซึ่งคณบดีฯ และเจ้าหน้าที่ของคณะ ได้ไปติดต่อราชการที่กระทรวงศึกษาธิการ ขณะกำลังจะทางกลับ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาขอความช่วยเหลือให้ช่วยรับลูกแมวไปดูแล เพราะแมวยังตัวเล็ก ยังไม่ลืมตา เป็นแมวจรที่แม่แมวคลอดทิ้งไว้ และกลัวว่าสัตว์เลื้อยคลานจะกินลูกแมว จึงช่วยกันกับเจ้าหน้าที่ของคณะฯ ยกลังลูกแมวขึ้นรถกลับมาด้วย

ช่วงแรกๆ ที่ลูกแมวยังเล็ก คณบดีฯ จะนำใส่ตะกร้าหิ้วกลับไปมา ระหว่างที่บ้านและที่มหาวิทยาลัย เพราะไม่มีคนดูแล ต้องคอยป้อนนม ป้อนอาหาร จึงได้เจ้าหน้าที่ของคณะสลับกันดูแล ก่อนหน้านี้ลูกแมวถูกเลี้ยงไว้นอกอาคาร และก็กลัวว่าจะมีสัตว์เลื้อยคลานมากินลูกแมวอีก จึงย้ายแมวเข้ามาเลี้ยงไว้ในตึกของคณะฯ ที่ชั้น 3 เมื่อลูกแมวเริ่มโตจึงย้ายลงมาเลี้ยงไว้ในห้องที่ชั้น 1 ซึ่งเดิมเคยเป็นห้องประชาสัมพันธ์

ส่วนข้อความที่กล่าวว่า คณบดีฯ นำแมวมาเลี้ยงที่ห้องประชาสัมพันธ์ แล้วย้ายเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ขึ้นไปอยู่หน้าห้องคณบดีฯ ในพื้นที่คับแคบ เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะกระบวนการย้ายห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์มีมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะอยากให้การสื่อสาร และการทำงานที่รวดเร็ว จึงให้
เจ้าหน้าที่ไปนั่งอยู่ด้วยกันชั้น 3 ส่วนห้องประชาสัมพันธ์เดิมที่ชั้น 1 มีแผนจะปรับปรุงเป็นห้องกิจกรรมนักศึกษา ซึ่งรองบประมาณในการปรับปรุงอยู่

ส่วนที่บอกว่าใช้ไฟหลวง เปิดแอร์ให้แมวทั้งวัน ทั้งคืน ก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะไม่มีการเปิดไฟ และเปิดแอร์ ห้องถูกที่ปิดล็อกไว้ มีเพียงเจ้าหน้าที่จะสลับกันนำน้ำและอาหารไปให้แมวเท่านั้น เรื่องอึ และฉี่แมว เจ้าหน้าที่ของคณะที่รักแมวก็สลับกันไปดูแล ไม่ได้ถูกบังคับ

หลังจากนั้น ทีมข่าวได้ขอไปดูแมว ทั้ง 4 ตัว ก็พบว่าอยู่ในห้องประชาสัมพันธ์เก่าที่ชั้น 1 จริง เป็นแมวแฝดเพศเมีย 2 ตัว และแฝดเพศผู้ 2 ตัว รวม 4 ตัว แมวไม่มีอาการกลัวคน และห้องก็ถูกล็อกไว้ แต่ไม่ได้เปิดแอร์ ไม่เปิดไฟ โดยหลังจากนี้คณบดีฯ วางแผนไว้ว่าจะทำหมันแมวให้ครบทั้ง 4 ตัว แล้วจะหาผู้อุปการะแมวไปเลี้ยงดู อย่างไรก็ตาม อธิการบดีฯ ได้รับทราบเรื่องแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และข้อเท็จจริง คาดว่าภายใน 1-2 นี้ จะสรุปความชัดเจนของเรื่องทั้งหมด

ทีมข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่คณะสื่อสารมวลชนเพิ่มเติมถึงเรื่องดังกล่าว ก็มีหลากหลายความคิดเห็น แต่ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า ไม่ควรนำแมวมาเลี้ยงในมหาวิทยาลัย เพราะมีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก นอกจากนี้ยังกังวลเรื่องของกลิ่นรบกวน ควรหาบ้านให้แมวอยู่ดีกว่า ขณะที่นักศึกษาบางคนบอกว่า ต้องขอบคุณแมว ที่ทำให้เป็นข่าว คณบดีฯ จะได้หาบ้านให้แมวใหม่ ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark