สาวแม่ลูกอ่อนร้อง ผัวทาสยาโมโหหิวซ้อมปางตาย

เช้านี้ที่หมอชิต - สาวแม่ลูกอ่อน ร้องขอความช่วยเหลือ หลังถูกสามีที่ติดยาเสพติด ทำร้ายปางตาย ทั้งที่เพิ่งคลอดลูกได้เพียงสองสัปดาห์ แจ้งความเป็น 10 ครั้ง แต่ตำรวจอ้างเป็นเรื่องในครอบครัว

นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า เธออยู่กินกับสามีมา 4-5 ปี โดยที่ฝ่ายชายติดยาเสพติดและมักจะทำร้ายร่างกาย จึงแยกกันอยู่มาแล้วรอบหนึ่ง แต่พอฝ่ายชายไปง้อขอคืนดี เธอก็กลับมาอยู่กินด้วยกันอีก

จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา เธอโดนสามีทำร้ายอีก ด้วยการเอาจานข้าวตีจนศีรษะแตก และต่อยหน้าโดนเบ้าตา 2 ครั้ง และตามลำตัวสาเหตุเพราะสามีโมโหที่เธอไม่ลุกไปหาข้าวให้กิน ทั้งที่เธอมีลูก 2 คน ต้องดูแล คนโตอายุ 2 ขวบ คนเล็กเพิ่งคลอดได้ 2 สัปดาห์ เท่านั้น ส่วนสาเหตุที่สามีเป็นคนโมโหร้าย เป็นเพราะอาการจากการติดยาเสพติด ไม่พอใจที่ตนเองไม่ลุกขึ้นไปหุงข้าวให้กิน

นางสาวเอ บอกว่า ตอนนี้เธอกลัวมาก เพราะไปแจ้งความตำรวจก็ไม่สนใจ โทรแจ้งให้มาที่เกิดเหตุก็ไม่ยอมมา เมื่อพึ่งตำรวจไม่ได้ สุดท้ายเธอต้องขนข้าวของพาลูก 2 คน ออกมาเช่าห้องพักแยกกันอยู่กับสามีอีกครั้ง ที่ผ่านมาเคยแจ้งความไปแล้วเป็น 10 ครั้ง แต่ตำรวจก็ยังไม่ทำอะไร

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า อยากฝากไปถึงผู้กำกับการ สน.บางยี่เรือ ว่า คดีนี้ตำรวจควรควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะคดีสามีหลอนยา ทำร้ายภรรยา เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน และเคสนี้ก็มีการทำความผิดหลายครั้งซ้ำ ๆ ถ้าครั้งนี้ไม่ดำเนินการต้องรอให้เขาก่อเหตุถึงตายก่อนหรืออย่างไร ถึงจะดำเนินการได้ ทำไมถึงมองว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกทำร้ายและเป็นแม่ลูกอ่อน เป็นแค่เรื่องในครอบครัว ถ้าคุยกันได้ ประชาชนจะไปแจ้งความทำไม ฝากไว้ให้คิด