พลังใบ ขับไปเคี้ยวใปไม่ผิดกฎหมายแต่ผู้โดยสารรถเมล์ไม่สบายใจ

ขับรถเมล์เคี้ยวใบกระท่อม ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผู้โดยสารไม่สบายใจ แฟนเพจอยากให้ต้นสังกัดมีมาตรการควบคุม เคี้ยวกี่ใบจึงกระทบต่อความสามารถในการขับขี่

วันนี้ (11 ม.ค.67) ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง เจ้าของเพจหมอแล็บแพนด้า โพสต์ภาพพนักงานขับรถประจำทางให้บริการขับรถไปด้วยเคี้ยวใบกระท่อมไปด้วย โดยภาพที่ปรากฎเป็นภาพคนขับรถเมล์ใช้มือขวาหยิบใบกระท่อมออกมาเคี้ยว ส่วนกระติกน้ำที่วางอยู่ด้านข้างที่นั่งคนขับรถเมล์มีเครื่องดื่มชูกำลัง 2 ขวด ใส่กระติกน้ำแข็งวางไว้ด้วย โดยหมอแล็บแพนด้าระบุว่า แฟนเพจไม่สบายใจ เพราะใช้บริการรถเมล์แล้วเห็นคนขับเคี้ยวใบไป (ใบกระท่อม)  ขับรถไป เพลินเลย

หมอแล็บแพนด้า ระบุว่า ในทางกฎหมายถ้าเคี้ยวใบถือว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะถูกยกเลิกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ไปตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2564 แต่ก็อาจจะดูไม่เหมาะสมรึเปล่า ถ้าเคี้ยวไป ขับรถไป โพสต์นี้ของหมอแล็บแพนด้า มีแฟนเพจเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันหลากหลาย มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าผู้โดยสารต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง แม้การเคี้ยวใบกระท่อมจะไม่ผิดกฎหมายแต่อยากให้ต้นสังกัดมีมาตรการควบคุมให้เหมาะสม การเคี้ยวใบกระท่อมใยปริมาณเท่าไหร่จึงจะกระทบต่อความสามารถในการขับยานพาหนะ ขณะเดียวกันก็มีความเห็นบางส่วน มองว่าเป็นการแก้ง่วง ใบกระท่อมทำให้ทำงานทนแดดได้ดีขึ้น หรือยังดีกว่าการเสพยาบ้า

ทั้งนี้ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2564 ประชาชนทั่วไปสามารถใช้พืชกระท่อมด้วยการเคี้ยวใบ การต้มทำน้ำกระท่อมหรือชากระท่อมดื่มได้ตามวิถีท้องถิ่น
            
ส่วน พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ เมื่อพืชกระท่อมไม่ถูกจัดเป็นยาเสพติดให้โทษ ผู้ขับขี่ที่เสพพืชกระท่อมในขณะขับรถ จึงไม่มีความผิดฐานขับเสพ ตามบทบัญญัติดังกล่าว