ยายน้ำตาคลอฝากเงินธนาคารชุมชนเป็นแสน แต่ถอนมาใช้ไม่ได้

คุณยายอายุ 75 ปี น้ำตาคลอ เดินทางไปถอนเงินฝากของตนที่สถาบันการเงินของหมู่บ้านเพื่อมาซ่อมบ้าน แต่ถูกปฏิเสธ เจ้าหน้าที่บอกว่า เงินยังไม่มี ให้รอไปก่อน

14 มกราคม 2567 ที่บ้านสร้างพุ่ม หมู่ที่ 9 ตำบลวังหิน อำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ นายเตชินท์ วรวงศ์ ปลัดฝ่ายปกครองอำเภอวังหิน พร้อมด้วย นายคำจัด บัลลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ได้เดินทางมาพบกับ ยายช้อน อายุ 75 ปี เจ้าของบ้าน

สืบเนื่องมาจากเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2566 ยายได้เดินทางไปที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่งในตำบลดวนใหญ่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีขนาดใหญ่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำเงินมาฝาก และการใช้บริการเงินกู้ ของเกษตรกรในเขตอำเภอวังหิน มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 10 ล้านบาทในแต่ละเดือน

โดยยายซ้อน ฝากเงินเอาไว้จำนวน 136,965.54 บาท เป็นเงินฝากสะสมตั้งแต่สมัยทำงานรับจ้างอยู่ทางภาคใต้เมื่อปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้ยายซ้อนต้องการเงินมาปรับปรุงบ้านจำนวน 50,000 บาท แต่เมื่อไปขอถอนจากสถาบันการเงินดังกล่าว กลับได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าไม่มีเงินช่วงนี้ ขอให้ยายรอเข้าคิวการถอนเงินก่อน

ยายซ้อนรู้สึกเสียใจอย่างมาก เงินฝากของตัวเองแต่ถอนไม่ได้ จึงได้เดินทางเข้าที่ว่าการอำเภอร้องขอความเป็นธรรม กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังหิน

เบื้องต้นศูนย์ดำรงธรรมได้นัดหมายให้คู่กรณีมาพบเพื่อที่จะเจรจา ตรวจสอบข้อเท็จจริง กับผู้ที่มาถอนเงินไม่ได้แล้วมาร้องอยู่จำนวน 10 กว่าราย ในวันที่ 18 มกราคม นี้ ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวังหิน

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อประสานงานกับประธานสถาบันการเงินชุมชนดวนใหญ่ เพื่อขอทราบรายละเอียดของเรื่องดังกล่าว โดยได้พบกับ นายประกอบ บุญปลูก ประธานกรรมดำเนินงานของสถาบันฯ ชี้แจงว่า ตอนนี้มีผู้ฝากเงินกับสถาบันการเงิน  2,729 ราย จำนวน 4,115 เล่มบัญชี รวมยอดเงินฝาก จำนวน 15,119,134.59 บาท ขณะเดียวกันก็มียอดลูกหนี้ จำนวน 413 ราย จำนวนหนี้ 17,681,948.21 บาท ปัญหาคือ ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ บางรายค้างเงิน 2-3 ปี เนื่องจากกระทบรายได้จากสถานการณ์โควิด จึงทำให้สถาบันขาดเงินทุนหมุนเวียนบางส่วน ก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญพนักงานธนาคาร ธกส.สาขาวังหิน ที่เป็นพี่เลี้ยงในการดำเนินงานของสถาบันฯ มาช่วยแก้ปัญหา ด้วยการนัดหมายลูกหนี้ที่ยังค้างชำระให้มาส่งชำระได้บางส่วนหรือครึ่งนึง เพื่อจะได้นำเงินมาจ่ายคืนผู้ที่ประสงค์จะถอนเงิน

ก่อนหน้านี้ก็สามารถให้ถอนเงินไปได้นับล้านบาทเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากมี กระแสข่าวปากต่อปาก ส่งผลกระทบออกไป จึงทำให้คนที่ฝากเงินกับสถาบันไว้ แห่มาถอนเงินฝากจำนวนมาก ทางสถาบันฯ จึงได้จัดเรียงคิวในการถอน และมีการพูดคุยเจรจา หากไม่จำเป็นช่วงนี้ขอให้ชะลอการถอนไว้ก่อน ยืนยันว่าเงินไม่หายไปไหน

พร้อมกันนี้สถาบันฯ ก็ได้เร่งติดตามหนี้จากลูกหนี้เงินกู้ ให้มาส่งชำระหนี้ที่ค้างนานปี เพื่อจะได้มีเงินหมุนเวียนต่อไปด้วย พร้อมกับยืนยันว่าสถาบันยังเข้มแข็งอยู่ ขอเพียงลูกค้าเงินฝากใจเย็น และพร้อมที่จะไปพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมในวันที่ 18 มกราคมนี้ เพื่อชี้แจงข้อมูลเท็จจริงทั้งหมดด้วย