ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คดีโอละพ่อ วงจรปิดจับชัด! รวบวัยรุ่นฆ่าโหด หญิงเร่ร่อนโยนลงน้ำ สามีไม่ได้ทำ

สนามข่าว 7 สี - จากกรณีพบศพหญิงเร่ร่อนภายในสระน้ำข้างโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว และต่อมาตำรวจจับกุม นายเปี๊ยก ผู้เป็นสามี ยอมรับว่าเป็นคนใช้เก้าอี้ฟาดภรรยาตัวเองเสียชีวิต แล้วนำศพไปโยนทิ้งน้ำเพราะโมโหที่ขอเงินไม่ได้ และทำไปเพราะความเมา พร้อมกับไปชี้จุดเกิดเหตุได้อย่างถูกต้องและทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อย แต่ปรากฎว่า คดีนี้เกิดโอละพ่อ เพราะผู้ก่อเหตุตัวจริงไม่ใช่นายเปี๊ยก แต่เป็นวัยรุ่น 5 คน ที่มีเรื่องกับหญิงเร่ร่อนรายนี้มาก่อน โดยมีหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้

จากกรณีตำรวจ สภ.อรัญประเทศ รับแจ้งพบศพนางสาวบัวผัน อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นหญิงเร่ร่อน ถูกฆาตรกรรมจับโยนลงสระน้ำข้างโรงเรียนศรีอรัญโญทัย เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในสภาพคว่ำหน้า มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะและใบหน้า สวมเสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีดำ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน โดยมีชาวบ้านมาพบศพในช่วงเที่ยงของวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุทาง พันตำรวจเอก พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ ได้สั่งการชุดสืบสวนลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมตรวจสอบหาข่าวและแกะรอยภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียง เร่งล่าจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

ต่อมา วันที่ 13 มกราคม ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคือ นายปัญญา หรือ เปี๊ยก อายุ 56 ปี เป็นสามีของหญิงเร่ร่อนผู้เสียชีวิต โดยได้คุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาปิดบังซ่อนเร้นศพ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่าเป็นคนลงมือใช้เก้าอี้ฟาดที่ศีรษะของภรรยาพร้อมกับตบตีที่ใบหน้าและลำตัว และใช้ท่อนไม้ทุบตีจนกระทั่งสลบไป มีสาเหตุเพราะโกรธแค้นที่ขอเงินภรรยาแล้วไม่ได้ ประกอบกับตัวเองอยู่ในอาการมึนเมา จึงบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว

จากนั้นได้ลากตัวไปที่สนามฟุตบอลของโรงเรียนและอุ้มศพไปทิ้งในสระน้ำจุดเกิดเหตุ พร้อมกับได้พาตำรวจไปชี้จุดเกิดเหตุต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง และทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นที่เรียบร้อย โดยบอกด้วยว่าได้ถอดเสื้อของตัวเองในวันก่อเหตุและท่อนไม้ที่ใช้ตีผู้เสียชีวิตไปทิ้งในถังขยะด้านหน้าแฟลตพยาบาล ก่อนที่จะหลบหนีไป จนกระทั่งมีชาวบ้านมาพบศพของนางสาวบัวผันในช่วงสายของอีกวัน

หลังจากตำรวจจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว ก็เท่ากับว่าคดีนี้น่าจะจบลงอย่างเรียบร้อยและสามารถปิดคดีได้อย่างสวยงาม แต่ปรากฎว่าตำรวจเกิดเอะใจและยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายเปี๊ยก จึงได้ไปย้อนดูภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ ก็พบกลุ่มวัยรุ่นชายต้องสงสัยจำนวน 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา 2 คัน ได้เลี้ยวผ่านหน้ากล้องวงจรปิดไปในเวลา 01.57 น. ของวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา

จากนั้นไม่นานกล้องวงจรอีกจุดหนึ่งได้จับภาพวัยรุ่นกลุ่มเดิมขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ด้านข้างซุ้มขายของ แล้วเดินเข้าไปด้านข้างร้านพร้อมกับลากตัวหญิงคนหนึ่งออกมาเพื่อที่จะพาขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จะนำไปที่ใดสักที่หนึ่ง โดยสืบทราบต่อมา ผู้หญิงในภาพคือ นางสาวบัวผัน อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นหญิงเร่ร่อนที่เสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลา 02.03 น. ของวันที่ 11 มกราคม ซึ่งเป็นวันเดียวกัน

จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่า หญิงเร่ร่อนซึ่งคาดว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายร่างกายและพาตัวซ้อนท้ายขึ้นรถจักรยานยนต์ได้พลักตกลงมาจากรถลงมากองอยู่บนพื้นถนน จากนั้นได้ลุกขึ้นและเดินข้ามฝั่งมาและถูกกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดย้อนมาทำร้ายร่างกายอีก และพาตัวขึ้นรถอีกเป็นครั้งที่สอง และได้ตกลงมาซ้ำอีก โดยทำแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายได้พาตัวขึ้นรถไปได้สำเร็จในเวลา 02.07 น.

ล่าสุด พันตำรวจเอก เอกอนันต์ หูแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้อย่างเร่งด่วน จนกระทั่งสุดท้ายสามารถจับกุมวันรุ่น 5 คน ที่ปรากฎในภาพวงจรปิดได้แล้ว มีอายุ 13-16 ปี พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน ทั้งหมดรับสารภาพแต่โดยดีว่าเป็นคนลงมือทำร้ายนางสาวบัวผันจริง และพาตัวไปโยนทิ้งในสระน้ำข้างโรงเรียนดังกล่าว

โดยมีพฤติการณ์ทางคดีสืบเนื่องจากเวลา 22.00 น. ของวันที่ 10 มกราคม ต่อเนื่องถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 11 มกราคม วันเกิดเหตุ กลุ่มวัยรุ่นได้นั่งรวมตัวกันอยู่ที่ริมสระน้ำและมีสองคนในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เข้าไปพูดล้อเล่นกับนางสาวบัวผัน ผู้เสียชีวิต ซึ่งมีอาการมึนเมานั่งอยู่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาขอบสระ จนผู้เสียชีวิตเกิดโมโหเอะอะโวยวายและปาขวดใส่ศีรษะของผู้ก่อเหตุ

จนกระทั่งเวลา 02.00 น. ตามภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาเจอผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ห่างจากจุดเดิมประมาณ 800 เมตร บริเวณด้านข้างซุ้มร้านค้า ทางกลุ่มวัยรุ่นจึงลงจากรถแล้วเข้าไปผู้เสียชีวิต พร้อมกับเตะที่ใบหน้าและรุมทำร้ายร่างกาย จากนั้นได้กลับออกไปแล้วย้อนกลับมาใหม่ พร้อมกับทำร้ายร่างกายซ้ำอีกแล้วพยายามอุ้มขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ แต่ผู้เสียชีวิตดิ้นรนจนตกจากรถหลายครั้ง จนกระทั่งสุดท้ายได้วนกลับมาอุ้มขึ้นรถได้สำเร็จ มุ่งหน้าไปยังสระน้ำบริเวณข้างโรงเรียนศรีอรัญโญทัย ทั้งนี้จากการสอบปากคำเบื้องต้นวัยรุ่นทั้งหมดรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง มีมูลเหตุ เพราะ 2 คนในกลุ่มโกรธแค้นนางสาวบัวผัน ส่วนอีก 3 คน บอกว่าทำตามเพื่อน

ตำรวจบอกว่า ในวันนี้จะสอบปากคำเพิ่มเติมกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดที่ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งโดยมีทีมสหวิชาชีพเข้าร่วมด้วย และพบว่าผู้ก่อเหตุ 2 คน ที่เป็นหัวโจกในกลุ่มมีอายุ 16 ปี เป็นลูกของตำรวจในพื้นที่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่หนักใจ เพราะทุกคนให้การรับสารภาพทั้งหมดแล้ว

ขณะที่ ผู้กำกับการ สภ.อรัญประเทศ บอกว่า ในส่วนของนายเปี๊ยกซึ่งเป็นสามีที่ถูกจับกุมตัวก่อนหน้านี้ หลังจากรับสารภาพว่าเป็นคนทำร้ายภรรยาของตัวเองเสียชีวิตนั้น ทางพนักงานสอบสวนเตรียมยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดสระแก้วเพื่อขอปล่อยตัว หลังจากได้ยื่นเรื่องฝากขังต่อศาลในวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา 

สำหรับความคืบหน้าในการสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมทางคดี ล่าสุด ช่วงบ่ายวานนี้ (14 ม.ค.) ตำรวจได้ประสานอาสากู้ภัยทางน้ำและนักประดาน้ำงมหาหลักฐานการฆาตกรรมในจุดเกิดเหตุที่สระน้ำข้างโรงเรียน เพื่อหาขาโต๊ะไม้ที่ผู้ต้องหาเป็นเยาวชนยอมรับว่าได้นำมาเป็นอาวุธทุบตีนางสาวผัวผันจนเสียชีวิต ก่อนที่จะนำศพขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปโยนทิ้งน้ำ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark