ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สลด! โรงงานพลุระเบิดดับ 23 ศพ

เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ เกิดเหตุโรงงานผลิตพลุไล่นกที่บ้านศาลาขาว ตำบลสวนแตง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ระเบิดราบเป็นหน้ากลอง เศษชิ้นส่วนมนุษย์กระจัดกระจาย ต่อมาพบผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 23 ศพ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้น เป็นที่เดิมที่เคยระเบิดเมื่อปลายปี 2565 มีชาวบ้านไลฟ์สดหลังเกิดเหตุไม่กี่วินาทีไว้ ไปชมคลิปนี้
 
สลด! โรงงานพลุระเบิดดับ 23 ศพ
นี่เป็นคลิปถ่ายทอดสดที่ชาวบ้านละแวกใกล้โรงงาน ได้ยินเสียงพลุระเบิด ก็ออกมาดูแล้วถ่ายไว้ ในวินาทีที่พยายามเข้าไปดูห่าง ๆ ยังได้ยินเสียงระเบิดจากพลุดังสนั่น จากปากคำชาวบ้าน บอกว่าไม่น่ามีใครรอดชีวิตออกมาได้ 

เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลา 15.30 น. แรงระเบิดกินวงกว้างกว่า 100 เมตร มีเศษชิ้นส่วนมนุษย์กระเด็นกระจัดกระจายตามทุ่งนารอบ ๆ โรงงาน หลังเกิดเหตุชาวบ้านที่มีญาติพี่น้องมาทำงานในโรงงานแห่งนั้นถึงกับร้องไห้กันระงม หลายคนมาตามหาดูร่างของญาติด้วยความร้อนใจ อย่างคุณลุงรายนี้ มีหลานทำงานภายในโรงงานนี้ 3 ราย ต้องมาเดินตามหาดูเศษซากร่างด้วยความร้อนใจ เพราะไม่รู้ว่าสูญเสียไปทั้ง 3 คนหรือไม่

จากความเสียหายที่เห็น ซากผู้เสียชีวิตและเศษซากจากภายในโรงงานบางส่วนกระเด็นไกลไปอยู่ในคูน้ำ บนต้นไม้ และตามทุ่งนา เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำผ้ามาคลุมร่างหรืออวัยวะไว้ก่อน รอให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรมาเก็บรวบรวมอีกครั้ง

ถึงตอนนี้ตรวจสอบพบชื่อผู้เสียชีวิตรวมแล้ว 23 ศพ หนึ่งในผู้เสียชีวิต คือ นางแสงเดือน ปานจันทร์ อายุ 51 ปี เจ้าของโรงงาน พร้อมกับลูกชายคือ นายธารา วัชระพิมลมิตร ส่วนสามีของนางแสงเดือนรอดหวุดหวิด เพราะออกไปข้างนอกขณะเกิดเหตุ มีชาวบ้านบอกว่าตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ มีคนงานเข้าไปทำงานในโรงงานพลุประมาณกว่า 20 คน หลังจากเกิดเหตุยังไม่พบผู้รอดชีวิตออกมา

โดยโรงงานแห่งนี้มีคนงานประมาณ 30 คน พบว่ายังมีที่สูญหาย ขั้นต่ำ 10 ราย ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิต นอกจากเจ้าของโรงงานและลูกชาย ตอนนี้ที่มีญาติมายืนยันหลังพบร่างแน่นอนแล้ว 18 รายชื่อ ที่เหลืออยู่ระหว่างตรวจสอบอัตลักษณ์ เพราะร่างจำนวนมากแหลกเหลวกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาในการยืนยันอีกครั้ง

หลังจากเกิดเหตุ อาสากู้ภัยในจังหวัดสุพรรณบุรี ระดมกันไปช่วยเหลือ แล้วต้องตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตมากเหลือเกิน

ทางฝ่ายการแพทย์และสาธารณสุข หน่วยนิติเวช รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช สุพรรณบุรี ได้เตรียมพร้อมแพทย์เวรนิติเวชเพื่อชันสูตรพลิกศพ และเตรียมอุปกรณ์การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเอาไว้ด้วย เช่น ถุงซิบบรรจุร่างผู้เสียชีวิต, Code tagging, Document form ตามกฏหมายว่าด้วยการชันสูตรพลิกศพ

และมีการประสานงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วย EOD พร้อมทั้งได้ประสานงานกับนายอำเภอเตรียมลงพื้นที่พื้นที่สำรวจร่างผู้เสียชีวิต เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ พร้อมแจ้งเตือนถึงการใช้แผนระยะฉุกเฉิน ให้กับห้องฉุกเฉินในการเตรียมความพร้อมรองรับกรณีดังกล่าว

โดยขณะนี้ ยังตรวจสอบภายในพื้นที่โรงงานไม่ได้ทั้งหมด เพราะว่าหวั่นว่าพลุที่เหลือจะระเบิดซ้ำอีก ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี มีการสั่งให้ปิดพื้นที่แล้วให้ตำรวจหน่วย EOD เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน
 
มีข้อมูลว่า โรงงานแห่งนี้ ผลิตพลุลูกไข่ไล่นก ได้รับใบอนุญาตเปิดอย่างถูกต้อง แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โรงงานเคยระเบิดไฟลุกไหม้แล้วครั้งหนึ่ง มีคนงานถูกไฟคลอกเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 3 ราย ก่อนจะกลับมาเปิดผลิตพลุอีกครั้ง

เมื่อช่วงค่ำ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่สั่งการให้พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้ชัดเจน พร้อมวางแผนนำไปที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่วัดโรงช้าง ตำบลศาลาขาว ซึ่งมีญาติผู้เสียชีวิตรออยู่ คาดว่าจะลำเลียงศพออกมาได้ในเวลา 08.00 น.

หลังจากนี้ตำรวจจะสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงสามีเจ้าของโรงงานเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด โดยชุดพิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด

ส่วนบรรยากาศที่วัดโรงช้าง ญาติของผู้เสียชีวิตได้นำหลักฐานมายืนยันผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย ขณะที่กระทรวงยุติธรรมได้เยียวยาครอบครัวละไม่เกิน 200,000 บาท และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เยียวยาครอบครัวละ 3,000 บาท โดยผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ยอมรับเหตุการณ์นี้รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในจังหวัดฯ จากนี้ต้องตรวจสอบโรงงานพลุให้เข้มงวด

ด้านนายสุริยา วัชระพิมลมิตร อายุ 56 ปี สามีเจ้าของโรงงานพลุ บอกว่า ตอนเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ และทราบข่าวหลังลูกน้องโทรไปแจ้งว่าโรงงานระเบิด ซึ่งในโรงงานมีทั้งภรรยาและลูกชาย โดยในโรงงานมีพลุ 80 ลูก และเตรียมส่งไปให้ลูกค้าใช้ในงานศพอีก 5-6 ลัง

นายกฯ เสียใจสั่งเยียวยาคนเจ็บ-เสียชีวิต
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2024 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ได้ติดตามสถานการณ์โรงงานพลุระเบิดอย่างใกล้ชิด และมีการได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เร่งช่วยเหลือประชาชนในบริเวณเกิดเหตุและโดยรอบ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งเยียวยาเต็มที่
 
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังได้สั่งให้ตรวจสอบโรงงานดังกล่าวว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และเหตุระเบิดเกิดจากความประมาทหรือไม่ ต้องดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด เพราะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark