เผาป่าสงวนฯ ป่าต้นน้ำ หวังฮุบที่ดินทำการเกษตร

สนามข่าว 7 สี - เจ้าหน้าที่พบป่าสงวนแห่งชาติ กลางป่าลึกในอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ถูกเผาทำลาย และตัดไม้จำนวนมาก คาดต้องการพื้นที่ทำการเกษตร

เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วหน้า พร้อมกับ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สข.6 (สะบ้าย้อย) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสันกาลาคีรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางด้วยรถขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นไปบนภูเขาสูง ระยะทาง 8 กิโลเมตร ในพื้นที่ตำบลทุ่งพอ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา หลังชาวบ้านแจ้งมีการเผาป่า ตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าควนราสอ ต้นน้ำแม่น้ำเทพา

เมื่อถึงพื้นที่ป่าสมบูรณ์ต้นน้ำ พบการลักลอบเผาป่า และตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น ไม้หว้า, ไม้จวง, ไม้ฝาด, ไม้ตะเคียนทราย พื้นที่ป่าถูกทำลาย 4 ไร่เศษ

แปลงที่ 2 ห่างต้นน้ำคลองสนี 1 กิโลมตร พบต้นไม้ขนาดใหญ่ อาทิ ไม้กะบาก, ไม้ยวนผึ้ง, ไม้สมพง, ไม้สยา ถูกตัดล้มคาตอ ยึดได้ 14 ท่อน และป่าบางส่วนถูกเผาทำลาย ซึ่งพื้นที่เสียหาย 6 ไร่เศษ สันนิษฐานว่า ทั้ง 2 จุด ทำลายป่าเพื่อครอบครองทำการเกษตร แต่ระหว่างตรวจสอบไม่พบผู้ใดอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ถูกทำลาย เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกตรวจยึด ก่อนร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สะบ้าย้อย ให้หาผู้ทำผิด มาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507

ลงไปที่จังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา โดยเดินเท้าจากหมู่บ้าน ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ถึงป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ ป่าต้นน้ำ คลองหาดทราย แม่น้ำเทพา

พบการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มคาตอ บางต้นตัดเป็นท่อนแปรรูปไม้ พบวางอยู่ 6 ท่อน ความยาวเฉลี่ย 300-600 เซนติเมตร ส่วนไม้แปรรูปบางส่วนถูกเคลื่อนย้ายแล้ว และยังพบไม้ต้นแลนบาน ขนาดต้นโต 370 เซนติเมตร ถูกแปรรูปทิ้งไว้ 12 แผ่น และต้นตะเคียนถูกตัดทิ้งไว้ 1 ท่อน

ซึ่งคนเลื่อยหลบหนีไม่นาน ก่อนเจ้าหน้าที่จะไปถึง ทั้งนี้ไม้แปรรูป คาดว่าตัดเพื่อนำไปสร้างที่อยู่อาศัย จึงให้เจ้าหน้าที่ร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.ยะหา นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี