ข่าวในหมวด ข่าวออนไลน์ News

เปิดใจ ลูกสาวเหยื่อโรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี ฝันสลายเสียคุณแม่ พลาดสอบตำรวจ


ลูกสาวเหยื่อโรงงานพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี ฝันสลาย เสียคุณแม่ พลาดสอบตำรวจ ยอมรับเคยไปรับงานพิเศษทำพลุกับแม่ตลอด รอดชีวิตเพราะติดสอบ เผย โรงงานมาตรการเข้ม ห้ามนำเข้าวัตถุไวไฟ- ห้ามเสียดสีวัตถุ ไม่โกรธเจ้าของ เพราะสูญเสียเหมือนกัน

วันนี้ (19 ม.ค. 67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เข้ามาเคารพศพของคุณสุนีย์ ขวัญอ่อน หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด ซึ่งนายประสิทธิ์ ขวัญอ่อน อายุ 56 ปี สามีของผู้เสียชีวิต และนางสาวจิราพร ขวัญอ่อน อายุ 23 ปี ลูกสาวคนเล็กมาร่วมพูดคุยด้วย

นายประสิทธิ์ เล่าว่า เมื่อปีที่แล้ว ก็เคยทำงานที่โรงงานผลิตพลุแห่งนี้ แต่พอเกิดอาการกระดูกหักเส้นประสาท ก็ไม่ได้ไปทำอีกเลย แต่ภรรยาและลูกสาวคนเล็กยังคงทำงานอยู่เรื่อยๆ

สำหรับขั้นตอนการทำงาน หลังจากได้รับออเดอร์ ก็จะมีทั้งหมด 3 แผนก เจาะรู กรอกดินปืน พันเทปใสและแพ็กลงบรรจุภัณฑ์ ซึ่งการเข้ามาทำงานตรงนี้ใช้เวลาว่างหลังจากทำนาทำสวน ไม่ใช่งานประจำ รายได้อยู่ 5-6 พันบาท ต่อ 2 สัปดาห์ จึงไม่ทราบว่า ออเดอร์ของโรงงานในแต่ละวันมีเท่าไหร่

ทุกคนที่เข้าไปทำงานในโรงงานนี้ รู้ดีว่าเป็นงานที่เสี่ยง แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ประกอบกับมีรายได้ที่สามารถนำมาเลี้ยงครอบครัวได้ และงานนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากบ้าน หลังจากสูญเสียภรรยาไปตนต้องเลี้ยงลูกแค่คนเดียว ยังมี 1 คนที่กำลังศึกษาอยู่ จากนี้ก็คงทำไร่ทำนาเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว  ส่วนเจ้าของโรงงานก็รู้จักกัน ไม่ได้ถือโทษโกรธ เพราะต่างคนก็ต่างผลเสีย

ขณะที่นางสาวจิราพร ลูกสาวเล่าว่า ตนก็ทำงานโรงงานนี้ โดยจะไปกับแม่ทุกครั้ง แม้เจ้าของโรงงานจะย้ำว่างานนี้มีความเสี่ยง เพื่อแบ่งเบาภาระครองครัว เพราะเรียนอยู่ปีที่ 5 ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะ แต่ช่วงหลังติดสอบจึงไม่ได้ไป

นางสาวจิราพร ยังเล่าถึงการทำงานในโรงงานว่า แบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่ 1 คือทางเข้าออฟฟิศ และเจาะรู โซนที่ 2 เป็นจุดกรอกอัดดินปืน ใส่ลูกบอล พันเทป แพ็กลงถุง ซึ่งก็จะแพ็กถุงละ 100 ลูก ขณะที่อาคารฝั่งตรงข้ามจะเป็นจุดเก็บดินปืนและผสมดินปืน โดยโรงงานมีมาตรการหลักๆ ห้ามสูบบุหรี่ ห้ามนำวัตถุไวไฟเข้ามาในพื้นที่ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่จะทำให้เกิดการเสียดสีเป็นประกายไฟและห้ามโยนสิ่งของภายในโรงงาน และตลอดระยะเวลาทำงานทุกคนจะระมัดระวังตัวและช่วยเหลือกันตรวจตราสิ่งผิดปกติภายในโรงงานทุกวัน และภายในอาคารก็มีอากาศปลอดโปร่งดี ออกได้หลายประตูไม่ใช่อาคารปิด และยืนยันว่า ภายในโรงงานไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นอกเหนือความจำเป็น

สุดท้ายนางสาวจิราพร เล่าถึงความฝัน ว่าอยากเป็นตำรวจ รับข้าราชการมีสวัสดิการที่ดูแลพ่อแม่ และความจริงแล้วตนต้องไปสอบตำรวจ วันอาทิตย์ที่ 21 ม.ค. นี้ แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก่อน จึงไปสอบไม่ทัน เหมือนฝันสลายไปพร้อมกับการเสียคุณแม่ แต่ยืนยันว่าหลังจากนี้ ก็จะเดินหน้าทำตามความฝันเพื่อพ่อต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark