ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

หลานลุงเปี๊ยก ร้องสอบตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัว-บีบให้สารภาพ

เช้านี้ที่หมอชิต - กัน จอมพลัง พาพ่อเยาวชน 16 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจฆ่าแล้วอำพรางคดี กับหลานสาว ลุงเปี๊ยก ไปร้อง DSI เพื่อติดตามคดี โดยเฉพาะกรณี ลุงเปี๊ยก ร้องให้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิด "พ.ร.บ.อุ้มหาย" ปมคลุมถุงดำ-นั่งถอดเสื้อทรมานตากแอร์ หรือไม่

หลานลุงเปี๊ยก ร้องสอบตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัว-บีบสารภาพ
เมื่อช่วงสายวานนี้ (22 ม.ค.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" พาผู้เสียหาย 2 รายแรกคือ พ่อของเยาวชน 16 ปี ที่เคยถูกแก๊งลูกตำรวจใช้อาวุธมีดฟัน และอำพรางศพด้วยการโยนลงน้ำพร้อมฟันซ้ำ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 อีกรายคือ "นางสาววิ" อายุ 43 ปี หลานสาวของ นายปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก เข้าพบ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รักษาราชการแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี และร้องขอความเป็นธรรม ตาม พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) หลัง "ลุงเปี๊ยก" ถูกคลุมถุงดำ ถอดเสื้อในห้องแอร์ทรมานให้รับสารภาพ โดยมี พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับเรื่อง

โดย กัน จอมพลัง กล่าวว่า กรณีเยาวชน 16 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจฆ่าแล้วอำพรางศพ พ่อของผู้เสียชีวิตต้องการทราบความคืบหน้าทางคดี ส่วนกรณี ลุงเปี๊ยก หลานสาวมาขอความเป็นธรรม หลังผลสอบตำรวจพบความผิดเพียง 2 ราย คือ พันตำรวจโท พิชิต วัฒโน ผู้กำกับการสายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ฐานผิดวินัย และ ดาบเสก ฐานผิดวินัย และ มาตรา157 ซึ่งตนยังรู้สึกติดใจเรื่องการสอบสวน มีการช่วยเหลือกันหรือไม่ ขอให้ ดีเอสไอ ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่น ๆ เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ และมีหลักฐานไปถึงสามารถเอาผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่

ด้าน พันตำรวจตรี วรณัน กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนจะเข้าข่าย พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่นั้น ต้องดูองค์ประกอบข้อกฎหมาย อาทิ การถูกจำกัดเสรีภาพ, การกระทำบางอย่างจนให้รับสารภาพ หรือ การกระทำอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ และข้อเท็จจริงอื่นมาประกอบ ส่วนการคุ้มครองพยานอยู่ระหว่างพิจารณา แต่จะเร่งรัดโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย มี 4 หน่วยงาน สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ประกอบด้วย ตำรวจท้องที่, ฝ่ายปกครอง, กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ อัยการ

3 กรม ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีจับ ลุงเปี๊ยก เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย
ซึ่งเมื่อช่วงบ่าย 15.30 น. เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมการปกครอง, กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่ในการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จับกุม "ลุงเปี๊ยก" มาสอบสวนที่โรงพัก แต่ไม่มีการบันทึกภาพ ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย และสอบสวนว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เข้าข่ายผิดกฎหมายดังกล่าวหรือไม่

โดย ดร.รัฐวิช เปิดเผยว่า การมาสอบถามทางชุดจับกุมและสืบสวน ลุงเปี๊ยก ครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับมาตรา 157 แต่ดูว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่ เพราะเบื้องต้นตำรวจอ้างว่าไม่ได้จับ ลุงเปี๊ยก มา แต่เป็นการเชิญมาพูดคุยในฐานะพยานเท่านั้น เพราะตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย มี 3 มาตรา คือ มาตรา 5 ฐานกระทำทรมานมีการบังคับให้รับสารภาพ โดยวิธีการทำให้ทรมานเจ็บปวดแก่ร่างกาย หรือ จิตใจ หรือไม่ และ มาตรา 6 คือถูกย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถูกลดทอนคุณค่า หรือไม่ ส่วนมาตรา 7 คือ อุ้มหาย ซึ่ง 3 มาตรานี้ เราจะดูว่าเข้าข่ายมาตราใดบ้าง ตอนนี้หลายฝ่ายกำลังเร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงอยู่

ผบ.ตร. สั่งเคอร์ฟิวเด็กสระแก้ว ห้ามออกนอกบ้าน หลังเวลา 4 ทุ่ม
การป้องปรามปัญหาในพื้นที่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่ชาวบ้านรวมถึงผู้เสียหาย ยังหวั่นเกรงแก๊งลูกตำรวจ ล่าสุด พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่กองบินตำรวจ เพื่อตรวจเยี่ยมราชการที่จังหวัดจันทบุรี และร่วมประชุมบริหาร ตำรวจ ครั้งที่ 1/2567 ที่จังหวัดชลบุรีเมื่อวานนี้ ได้สั่งการให้มีการระดมกวาดล้างกลุ่มแก๊งเยาวชนกวนเมืองทั่วประเทศให้ลดลงภายใน 1 เดือน ส่วนพื้นที่จังหวัดสระแก้วนั้น สั่งให้ใช้ยาแรง มอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วระดมกวาดล้าง จัดทำบันทึกประวัติ และพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งเยาวชนในพื้นที่ทั้งหมด และให้กวดขันกับเยาวชนอายุ 10-15 ปี ที่ออกนอกบ้านหลัง 22.00 น. โดยไม่มีผู้ปกครองมาด้วย หากพบจะต้องเชิญมาทำประวัติ และเชิญผู้ปกครองสอบถาม

นอกจาก จังหวัดสระแก้ว ผบ.ตร. ยังสั่งให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษดำเนินการในพื้นที่อื่น ๆ ด้วย เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ตั้งแก๊งกวนเมือง หรือ กลุ่มแก๊งในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่อาจไม่เพียงพอ

ส่วนคดีความที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเด็ก 5 คน ในจังหวัดสระแก้วนั้น ผบ.ตร. เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 5 คดี แต่หากเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งหมด 20 คน นั้นมีทั้งหมด 8 คดี ซึ่งได้รับแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว โดยจะเร่งรัดในการทำคดีทั้งหมด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark