เนรคุณข้าวก้นบาตร หนุ่มคลั่งจับหัวพระโขกพื้นเลือดอาบ
เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มทาสยาขอข้าววัดกินกว่า 10 ปี สุดท้ายเนรคุณข้าวก้นบาตร ทำร้ายพระภิกษุ จับศีรษะโขกพื้นจนแตก แล้วกระหน่ำเตะหลายครั้งก่อนหลบหนี
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพพระภิกษุช่วยกันจับตัว นายชำนาญ อายุ 48 ปี หลังก่อเหตุทำร้าย พระศุภฤกษ์ อายุ 49 ปี แต่พระทั้ง 2 รูป สู้แรงไม่ไหว ทำให้ผู้ก่อเหตุเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดที่ศาลาวัดธรรมเสนาพัฒนาราม ชุมชนเก่าจาน 4 ซอยประชาสันติ เขตเทศบาลนครอุดรธานี ช่วง 07.30 น. ของเมื่อวาน
พระศุภฤกษ์ พระลูกวัด นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นศาลา สภาพศีรษะด้านขวาแตก เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบนำส่งโรงพยาบาล
พระอาคม อายุ 51 ปี พระลูกวัด เล่าว่า ผู้บาดเจ็บเพิ่งมาบวชได้ 3 พรรษา ส่วนผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมเสพยาบ้า สูบกัญชา และติดสุราจนเพี้ยน แต่จะเข้ามาทำความสะอาดวัดแลกข้าวก้นบาตรกินนานกว่า 10 ปีแล้ว บางครั้งพระจะให้เงินด้วย 20-40 บาท
ก่อนเกิดเหตุ พระที่บาดเจ็บกลับจากบิณฑบาต ก็นำอาหาร ขนม ไปไว้ที่ศาลาพักศพ เพื่อแจกญาติโยมที่ไม่มีข้าวกิน ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุลุกขึ้นยืน ร้องเอะอะโวยวาย ทำท่าทางเหมือนเดอะฮัลค์ ยักษ์เขียว พุ่งเข้าทำร้ายพระ จับศีรษะโขกพื้น 2-3 ครั้ง ก่อนเตะซ้ำอีกหลายครั้งจนพระหมดสติ คาดสาเหตุมาจากหลอนยาเสพติด
ด้าน หลวงปู่สวน กันตะสีโค รองเจ้าอาวาส บอกว่า ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุไม่เคยทำร้ายใคร และไม่เคยทะเลาะบาดหมางกับพระที่บาดเจ็บด้วย แต่จู่ ๆ คลุ้มคลั่งไม่มีสาเหตุ หลังจากนี้จะไม่ให้เข้ามาในวัดอีกแล้ว
ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว หนีไปซ่อนตัวที่บ้าน จึงนำตัวมาสอบสวน ให้การอ้างว่า ได้เสียงพระที่นั่งฉันข้าวอยู่ สั่งให้ต่อยพระที่บาดเจ็บ ยืนยันไม่รู้สึกผิด เพราะพระที่บาดเจ็บชอบเข้มงวดกับตน ชอบดุด่า ส่วนเรื่องยาเสพติดจะเสพยาบ้าสัปดาห์ละครั้ง
ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากชุดสืบสวน ตอนไปจับกุมผู้ก่อเหตุ พูดจาวกวน อ้างท้าวเวสสุวรรณเข้าร่างตอนก่อเหตุ ก่อนซุนหงอคงเข้าร่างมาช่วยให้ได้สติ
ด้าน ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีไปช่วยงานวัดทุกวัน พร้อมนำข้าววัดมาให้กิน ช่วง 5 ปี ที่อยู่กินกันมา ไม่เคยถูกทำร้าย และสามีไม่เคยทำร้ายใคร แม้จะป่วยจิตเวช ส่วนยาเสพติด สามีเลิกไปนาน แต่ไม่คิดว่าจะกลับไปเสพอีก จนคลุ้มคลั่งทำร้ายพระ รู้สึกเสียใจ อยากขอโทษพระที่บาดเจ็บ
ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเตรียมแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มเติม เพราะตรวจเจอสารเสพติดในปัสสาวะ ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาก่อนก่อเหตุ จึงเตรียมขยายผลตามจับกุมผู้ที่ขายยาบ้าให้ผู้ก่อเหตุด้วย
