ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

รวบ เจ๊ปุ้ย-น้องชาย ร่วมฆ่าเศรษฐีนี ปมค้ำเงินกู้10ล้านบาท

เช้านี้ที่หมอชิต - กรณี "เจ๊ม่วย" เศรษฐีนีเงินกู้ในจังหวัดจันทบุรี ถูกฆ่าทิ้งสระน้ำล่าสุดเมื่อวานนี้ ตำรวจตามจับ "เจ๊ปุ้ย" ผู้ต้องสงสัยได้แล้วขณะอยู่ชายแดนไทย-ลาว อ้างไปปฏิบัติธรรม เจ้าตัวซัดทอดว่าน้องชายเป็นคนลงมือฆ่า จากปมถูกทวงเงินค่าค้ำประกันเงินกู้นับ 10 ล้านบาท แต่น้องชายบอกว่า เจ๊ปุ้ย นั่นแหละคือมือฆ่าเจ๊ม่วย

กรณี พบศพ นางสาวปนิฐิ โกศลานันท์ หรือ เจ้ม่วย อายุ 77 ปี เสียชีวิตในสระน้ำกลางสวนผลไม้ของตัวเอง ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา สภาพกระดูกชายโครงซ้าย และกระดูกชายโครงขวาหัก มีแผลที่ศีรษะ มีรอยฟกช้ำตามร่างกาย คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3-4 วัน แนวทางสืบสวนพบว่า การเสียชีวิตของเจ้ม่วยมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจจำนวนกว่า 30 ล้านบาท และเจ้ม่วยได้ให้ทนายความร่างเรื่องเพื่อเตรียมฟ้องลูกหนี้ แต่มาก็เสียชีวิตเสียก่อน

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน คุมตัวนายกฤษ อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัย ไปตรวจหาพยานหลักฐานที่บ้านในพื้นที่ตำบลปัถวี ในอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี และคุมตัวกลับมาสอบปากคำเครียดทั้งคืน

สุดท้าย นายกฤษรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุฆ่าเจ้ม่วยจริง และมีผู้ร่วมก่อเหตุ อีก 2-3 คน โดย 1 ในนั้นคือ เจ๊ปุ้ย ส่วนอีก 2 คนเป็นชายวัยรุ่น ใช้ของแข็งรุมตีเจ๊ม่วยจนตาย โดยนายกฤษอ้างว่าเป็นแค่คนขับรถ พาผู้ร่วมก่อเหตุมาทวงหนี้กับผู้ตาย ไม่ได้เข้าไปทำร้ายผู้ตาย แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ

ต่อมาช่วง 11.00 น. วานนี้ ตำรวจนำตัว นายกฤษ ไปที่จุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายกฤษ ให้การกับตำรวจว่า ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดไว้ข้างสวนของเจ้ม่วย เป็นจุดนัดเจอกับ เจ้ปุ้ย โดย เจ้ปุ้ย ได้พาเดินไปบ้านของเจ้ม่วย แล้วให้ตนยืนรออยู่ด้านนอก ก่อนที่เจ้ปุ้ยจะตะโกนเรียกให้เข้าไปในบ้าน พร้อมมีชายสวมไอ้โม่งอีก 1 คนรออยู่ด้านนอก เมื่อเข้าไปในบ้านพบเห็นว่า เจ้ม่วยนอนเสียชีวิตแล้ว ทางเจ๊ปุ้ยจึงได้สั่งให้ตนขึ้นไปถอดเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณชั้น 2 แล้วใส่ถุงลงมา ก่อนที่จะให้ตนและไอ้โม่งอีกคน ที่รออยู่มาช่วยนำร่างเจ๊ม่วยออกทางประตูเหล็กหน้าบ้าน จนไปถึงบริเวณข้างสวนผลไม้ แต่พอไปได้ระยะหนึ่ง จึงวางร่างของเจ้ม่วยลง แล้วให้ไอ้โม่งกับเจ้ปุ้ยขนร่างเจ้ม่วยมุ่งหน้าสระน้ำ โดย นายกฤษ อ้างอีกว่า ไม่ได้ตั้งใจมาร่วมก่อเหตุ แต่โดนเจ้ปุ้ยหลอกมา

ล่าสุด ตำรวจสามารถติดตามตัวเจ๊ปุ้ย หรือ นางโสมสุดา พรหมวิเชียร อายุ 42 ปี ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตำบลเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมตรวจยึดรถกระบะ ป้ายแดง 2 คัน และทองคำอีกจำนวนหนึ่ง จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ๊ปุ้ย รับสารภาพว่า ตนเองรู้จักกับ นางสาวปนิฐิ หรือ เจ๊ม่วย มาประมาณ 6-7 ปี เนื่องจากเป็นเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันและยังทำธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบด้วยกัน ที่ผ่านมา เจ๊ม่วย ได้ปล่อยเงินกู้ร้อยละ 50 แล้วเก็บไม่ได้ จึงนำโฉนดที่ดินไปจำนองกับนายทุนหลายแห่ง โดยมีตนเองเป็นคนค้ำประกันให้ แต่ตนไม่เคยได้ส่วนแบ่งค่าจ้าง หรือค่าลายเซ็นแต่อย่างใด รวมมูลค่าที่จำนวนประมาณ 10 ล้านบาททั้งดอกเบี้ย

ต่อมาเจ๊ม่วย ก็ไม่สามารถเก็บเงินที่ปล่อยกู้ได้จึงได้มาบังคับให้ตน ซึ่งเป็นคนค้ำรับสภาพหนี้แทน ตนจึงได้คุยกับนายกฤษ ผู้เป็นน้องชาย เพื่อเข้าไปเคลียร์ปัญหากับเจ๊ม่วยช่วงคืนวันที่ 19 มกราคม ขณะนั้น เจ๊ม่วยกำลังยืนให้อาหารสุนัขอยู่หน้าบ้าน ตนคุยจนมีปากเสียงกับเจ๊ม่วย นายกฤษเห็นว่าคุยไม่รู้เรื่องจึงได้เข้าไปล็อกคอ แล้วลากเจ๊ม่วยเข้าไปในห้องโถงของบ้าน ก่อนจะบีบคอเจ๊ม่วยจนแน่นิ่งแล้วนำเชือกมารัดคอซ้ำ

เจ๊ปุ้ย บอกว่า นายกฤษน้องชายเข้าไปถอดกล้องวงจรปิดและตัวบันทึกใส่กระสอบพร้อมทั้งอุ้ม เจ๊ม่วยโยนข้ามกำแพงทิ้งที่สระน้ำ ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนวันที่ 20 มกราคม ตนก็เดินทางมาปฏิบัติธรรมที่อำเภอเขมราฐ ก่อนจะโดนจับได้ พอจับตัวเจ๊ปุ้ยได้ ตำรวจต้องควานหาวงจรปิดจากนายกฤษ ซึ่งนายกฤษสารภาพว่าได้นำมาทุบทำลายที่บ้านพักตนเอง ก่อนนำมาโยนทิ้งที่สระ

จากนั้น นายกฤษ กลับคำให้การอ้างว่า แท้จริงแล้วคนก่อเหตุมีเพียง 2 คน คือตนเองกับเจ้ปุ้ย ไม่มีชายสวมไอ้โม่ง ตามที่ให้การในตอนแรก พร้อมรับว่า ตนเองทำหน้าที่ล็อกคอเจ้ม่วย ส่วนเจ้ปุ้ยเป็นคนลงมือทำร้าย จนเจ้ม่วยถึงแก่ความตาย ก่อนช่วยกันพาศพโยนทิ้งสระน้ำ

คดีนี้ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า เกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุหลอกเอาเงินผู้ตายจำนวนหนึ่ง แล้วเกิดความขัดแย้งกัน จนวางแผนฆ่าปิดปาก โดยรายละเอียดของคดีทั้งหมด จะมีการแถลงอีกครั้งช่วง 09.00 น. วันนี้ (26 ม.ค.)

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark