เมียนมายังวิกฤต! กองทัพสู้รบกองกำลังชนกลุ่มน้อย

เกือบครบ 3 ปีแล้ว จากการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมา สถานการณ์ล่าสุดเมียนมายังคงอยู่ท่ามกลางวิกฤต กองทัพเมียนมายังคงสู้รบกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย และมีแนวโน้มว่า กองทัพเมียนมาอาจกำลังพ่ายแพ้

วันนี้ (26 ม.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจะเป็นวันแรกของการเปิดประชุมรัฐสภาเมียนมา หลังการเลือกตั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2563 กองทัพเมียนมาได้ก่อรัฐประหารและยึดอำนาจจากรัฐพลเรือน พร้อมจับกุมตัวนางออง ซาน ซูจี และสมาชิกพรรค NLD ด้วยข้อกล่าวหาว่าพรรคของนางซูจี โกงการเลือกตั้ง

โดยการรัฐประหารดังกล่าวถูกประณามอย่างหนักในเวทีโลก และทำให้พลเมืองชาวเมียนมาลุกขึ้นมาประท้วงเป็นวงกว้าง และร่วมกันต่อต้านด้วยวิธี "อารยะขัดขืน" (civil disobedience) แต่ก็ถูกกองทัพเมียนปราบปรามอย่างหนักและจับกุม โดยข้อมูลจากสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) เผยว่า นับตั้งแต่วันก่อรัฐประหารจนถึงวันที่ 24 มกราคมปีนี้ มีผู้ถูกสังหารโดยคณะรัฐประหารแล้วถึง 4,426 คน และถูกจับกุมกว่า 25,800  คน

ขณะที่สำนักข่าวอิรวดีของเมียนมา รายงานว่า ปฏิบัติการของกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ (Three Brotherhood Alliance) หรือที่เรียกว่า "ปฏิบัติการ 1027" (Operation 1027) ซึ่งมาจากวันที่กลุ่มพันธมิตรชนกลุ่มน้อยเปิดการตอบโต้กลับกองทัพเมียนมาในรัฐฉาน ทางตอนเหนือของเมียนมา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ได้เพิ่มแรงกดดันกองทัพเมียนมามากขึ้น ซึ่งยิ่งนานวันดูเหมือนกองทัพเมียนมาจะเพลี่ยงพล้ำมากขึ้น หลังมีรายงานทหารเมียนมายอมจำนน และพากันหนีทัพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในอินเดียและจีน

โดยเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา พันธมิตรสามภราดรภาพตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับกองทัพเมียนมา โดยมีจีนเป็นตัวกลางเจรจา แต่ข้อตกลงดังกล่าวล้มเหลวลงภายในเวลาอันสั้น ซึ่งจนถึงเมื่อวานนี้ กองกำลังชนกลุ่มน้อยและกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ เข้าโจมตี และยึดเมืองจากรัฐบาลทหารเมียนมาได้แล้วอย่างน้อย 34 เมือง โดยเฉพาะเมืองพรมแดนติดกับอินเดีย จีน และบังกลาเทศ และยังมีทีท่าว่าจะยึดเมืองได้เพิ่มขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์วิกฤตในเมียนมายังคงไม่มีท่าทีที่จะคลี่คลายลงและในฐานะที่เมียนมาเป็น 1 ในชาติสมาชิกอาเซียน ทางผู้นำสปป.ลาว ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ เตรียมหยิบยกปัญหาวิกฤตในเมียนมาขึ้นมาหารือในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป