ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ไทย-เยอรมนี ร่วมมือยุทธศาสตร์รอบด้าน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล ของประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ทำให้เกิดความร่วมมือเพิ่มเติมหลายด้าน ติดตามได้จาก โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

ดร.ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และภริยา เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยในวันที่ 24 มกราคม นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนรัฐบาล และภริยา รอต้อนรับ และช่วงเช้าวันที่ 25 มกราคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รอต้อนรับอย่างเป็นทางการที่ทำเนียบรัฐบาล ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ลงนามในสมุดเยี่ยม และหารือข้อราชการเต็มคณะ พร้อมร่วมหารือกับภาคเอกชน

จากนั้นประธานาธิบดีเยอรมนี และนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแถลงถึงการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งแรกในรอบ 22 ปี ที่จะยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ ความร่วมมือด้านความยั่งยืน การรับมือกับภาวะโลกร้อน และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เยอรมนีพร้อมสนับสนุนเทคโนโลยีการผลิตพลังงานทดแทน ขยายการลงทุนอุตสาหกรรมอีวี เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาค ส่งเสริมการทำเกษตรแบบยั่งยืนในไทยอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก

ส่วนการพบกับภาคเอกชน นายกรัฐมนตรีได้บอกถึงนโยบายและโครงการต่าง ๆ ที่ไทยมีศักยภาพในการดำเนินการ อาทิ โครงการแลนด์บริดจ์ ความร่วมมือด้านอาชีวศึกษา

และที่ภาคเอกชนสนใจ คือ การรีไซเคิลและการผลิตเม็ดพลาสติกจากขยะ ซึ่งไทยพร้อมพิจารณาให้เยอรมนีเข้ามาลงทุน นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือให้ยกเว้นตรวจลงตรา สำหรับการเดินทางเข้าเขตเชงเกน ให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยด้วย ภายหลังการการแถลงข่าว รัฐบาลได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับประธานาธิบดี เพื่อเป็นเกียรติ

และวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ ประธานาธิบดีได้เดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำไฮบริด ที่เขื่อนสิรินธร ซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำ ใหญ่เป็นอันดับต้นของโลก และโครงการเกษตรยั่งยืนที่เป็นความร่วมมือระหว่างเยอรมนีกับไทย รวมทั้งเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

นับเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ยาวนานมากว่า 160 ปี ที่จะต่อยอดยุทธศาสตร์ความร่วมมือกันอีกในอนาคต 

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark