ลุงคนขับรถแท็กซี่ร้อง ถูกโจรหลอกให้ไปส่ง เจอขวานฟันศีรษะ
เช้านี้ที่หมอชิต - ลุงขับแท็กซี่ ร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกคนร้ายหลอกให้ไปส่ง ก่อนใช้ขวานฟันศีรษะหวังชิงทรัพย์ ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว กลับแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งที่น่าจะเป็นเจตนาฆ่ามากกว่า
ภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือ นายชินพัฒน์ อายุ 51 ปี คนขับรถแท็กซี่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังถูกคนร้ายในคราบของผู้โดยสาร ใช้ขวานฟันเข้าที่ศีรษะและลำคอ หวังชิงทรัพย์ แต่ นายชินพัฒน์ หนีออกจากรถมาได้และได้รับบาดเจ็บหลายแผล ต่อมาตำรวจจับผู้ก่อเหตุได้ แต่ตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งที่เป็นการเจตนาฆ่า จึงมาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรม
นายชินพัฒน์ บอกว่า เหตุเกิดช่วงค่ำ วันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ชายคนหนึ่งเรียกให้ไปส่งที่ซอยลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงที่หมาย ยอดค่าโดยสาร 511 บาท คนร้ายโอนจ่ายให้แค่ 57 สตางค์ อ้างว่า แอปฯ ธนาคาร มีปัญหา ขอสแกนโอนเงินอีกครั้ง แต่โอนมาแค่ 1 บาท 50 สตางค์ อ้างว่า แอปฯ มีปัญหาอีก และออกอุบายให้ขับไปหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินสด เมื่อไปถึงตู้เอทีเอ็ม ขณะที่กำลังดึงเบรกมือเพื่อจอดรถ จู่ ๆ ก็รู้สึกโดนกระแทกอย่างแรงจนหัวทิ่มลงไปที่คอนโทรลหน้ารถ รู้สึกชาไปหมด พอหันไปดูเลยเห็นว่าคนร้ายกำลังง้างขวานและฟันเข้าที่คอข้างซ้าย และที่แขน โดยฟันซ้ำ ๆ ไม่หยุด ตนพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย จนตะเกียกตะกายหนีลงจากรถมาได้ คนร้ายก็ยังไล่ตามไปทำร้าย จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากวินมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่คนร้ายจะชิงรถแท็กซี่ของตนขับหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลลึกที่ศีรษะ เย็บ 8 เข็ม แผลที่คอข้างซ้าย เย็บ 6 เข็ม และแขนถูกฟันจนเอ็นฉีกขาด รวมแล้วเย็บกว่า 20 เข็ม และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระอินทร์ราชา
ต่อมาตำรวจพบรถแท็กซี่ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ริมถนนกาญจนาภิเษก ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และสามารถจับกุมคนร้ายได้ชื่อ นายสราวุฒิ หรือ ตี๋ อายุ 24 ปี แต่ตำรวจกลับแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ทั้งที่พฤติกรรมของคนร้ายหมายจะเอาชีวิต และตำรวจก็ไม่เคยเรียกผู้เสียหายไปสอบปากคำ แถมยังบอกอีกว่า จับคนร้ายให้แล้วจะเอาอะไรอีก
นายเอกภพ บอกว่า ได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบว่า ได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนเรียกผู้เสียหายไปสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อจะได้แจ้งข้อหาให้ครอบคลุมความผิด
ด้าน นางสาวศิริวิมล ภรรยาของนายสราวุฒิ หรือ ตี๋ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เจอ นายตี๋ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา หลังจากแยกกันอยู่ เพราะ นายตี๋ เป็นคนโมโหร้าย และเคยทำร้ายบีบคอตนเกือบตาย วันที่เจอกันสังเกตว่า นายตี๋ ท่าทีพิรุธ ลุกลี้ลุกลน ยังไม่ทันได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ ก็มีตำรวจมาจับ จึงทราบว่า นายตี๋ ไปทำร้ายคนขับแท็กซี่ และชิงทรัพย์ก่อนจะหนีมาหาตน ก่อนอยู่กินกัน นายตี๋ เคยถูกจับคดียาเสพติดเมื่อปี 2560 ถูกจำคุก 2 ปี ส่วนเหตุที่ทำร้ายคนขับแท็กซี่ คาดว่าเป็นเพราะไม่มีเงินเป็นค่ารถเพื่อเดินทางมาหาตนเอง
ด้าน นางสถิตย์ อายุ 51 ปี แม่ยายของนายตี๋ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายตี๋ ติดยาเสพติด และติดพนันออนไลน์ ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา นายตี๋ ได้โทรศัพท์มาหาลูกสาว แต่ลูกไม่รับสาย จึงโทรมาที่เบอร์ตน และข่มขู่ว่าจะฆ่าทั้งครอบครัว เพราะคิดว่าตนยุยงให้ลูกสาวหย่ากับนายตี๋ ส่วนสาเหตุทั้งหมดเชื่อว่าเป็นเพราะนายตี๋เสพยาเสพติด
