ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ฉาว ! สั่งให้ออกราชการ ร.ต.อ.ข่มขืนเด็ก ม.5 แลกเงินค่าปรับ

เช้านี้ที่หมอชิต - วงการสีกากีฉาว นักเรียนหญิง ม.5 ไม่มีใบขับขี่ ถูกเรียกปรับ 2,000 บาทแต่ไม่มีจ่าย โดนร้อยตำรวจเอกพาไปข่มขืนในห้องเก็บของข้างโรงพัก แม่สุดทนร้องสายไหมต้องรอด ขณะที่ ผบ.ตร. สั่งสอบด่วน ล่าสุดตำรวจรับสารภาพก่อเหตุจริง ถูกแจ้ง 2 ข้อหา และส่งตัวเข้าเรือนจำ หลังศาลไม่อนุญาตปล่อยตัว

ฉาว ! สั่งให้ออกราชการ ร.ต.อ.ข่มขืนเด็ก ม.5 แลกเงินค่าปรับ
เพจสายไหมต้องรอด ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นแม่ผู้เสียหาย ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากลูกสาว อายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.5 ขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียนโดยไม่มีใบขับขี่และหมวกกันน็อก ระยะทางไปโรงเรียนประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วตำรวจจะเอาเงิน 2,000 บาท แต่น้องไม่มีเงินจ่าย ตำรวจบอกต้องมีข้อแลกเปลี่ยนและพาไปขืนใจ

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามแม่ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 29 มกราคม ลูกสาวขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงเรียน โดยมีน้องสาว อายุ 15 ปี นั่งซ้อนท้ายไปด้วย และไปเจอ ร้อยตำรวจเอก กัมปนาท พิมพ์ภู รองสารวัตรจราจร สภ.ป่าติ้ว เรียกตรวจเนื่องจากไม่สวมหมวกกันน็อกและไม่มีใบอนุญาตขับขี่ โดยแจ้งค่าปรับ 2,000 บาท แต่ลูกไม่มีเงินจึงขอจ่ายวันพรุ่งนี้

แต่ตำรวจนายนี้ไม่ยอม พาลูกสาวเดินไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นลูกเข้าใจว่าพาไปโรงพัก แต่พอไปถึงที่ทำการ กศน.อำเภอป่าติ้ว อยู่ห่างจาก สภ.ป่าติ้ว จังหวัดยโสธร แค่ 200 เมตร ซึ่งวันนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ที่ศูนย์ เนื่องจากไปร่วมแข่งขันกีฬาที่จังหวัดอุบลราชธานี 

ทางตำรวจได้พาลูกสาวพาเข้าห้องเก็บของ ทำให้น้องสาวที่เดินตามหลังมา หาพี่สาวไม่พบ ช่วงอยู่ในห้องสองต่อสอง ตำรวจบอกต้องเอาเงิน 2,000 บาทมาจ่ายถึงจะได้ออกไป ลูกสาวพยายามต่อรองเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่สำเร็จ ตำรวจใช้ปืนข่มขู่ และใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จ โดยก่อนปล่อยตัวตำรวจยังพูดกับลูกว่า "พรุ่งนี้ให้มาหาพี่อีกนะ" ไม่งั้นจะต้องเสียค่าปรับ 2000 บาทอีก 

หลังเกิดเหตุ ลูกโทรปรึกษาตำรวจที่รู้จักกัน แนะนำให้ไปโรงพยาบาลตรวจร่างกาย อย่าเพิ่งอาบน้ำ จากนั้นนำหลักฐานจากแพทย์ไปแจ้งความ สภ.ป่าติ้ว

พลตำรวจโท อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ผู้บัญชาการภาค 3 คุมสอบคดีนี้ด้วยตัวเอง และต้องทราบข้อเท็จจริงทันที พร้อมสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเป็นพฤติกรรมที่เลว ชั่วช้า และมีมูลความจริง

ศาลไม่ให้ประกันตัว คุม ร.ต.อ.นอนคุก
ซึ่งตำรวจนายนี้ ยอมรับพาผู้เสียหายไปข่มขืนจริง จึงแจ้งข้อกล่าวหาฐานพรากผู้เยาว์ อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังขู่เข็ญโดยใช้กำลังประทุษร้าย

จากนั้นพนักงานสอบสวนคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขังผัดแรก เนื่องจากต้องสอบสวนพยานบุคคลอีก 10 ปาก รวมถึงรอผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือ และผลการตรวจจากแพทย์ 

โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว เพราะเกรงจะหลบหนี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขัง และไม่อนุญาตให้ปล่อยตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาไปยังเรือนจำจังหวัดยโสธร 

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark