ทหารอิสราเอลปลอมตัวบุกโจมตีโรงพยาบาล ในเขตเวสต์แบงก์

มีการเผยภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกได้ เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาล "อิบน์ ซีนา" (Ibn Sina) ในเมืองเจนิน (Jenin) ทางตอนเหนือของเขตเวสต์แบงก์ ขณะหน่วยคอมมานโด หรือหน่วยรบพิเศษของกองกำลังอิสราเอล ประมาณ 10 คน ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่การแพทย์และหญิงชาวมุสลิม พร้อมถือปืนไรเฟิลบุกเข้าไปในโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อสังหารนักรบชาวปาเลสไตน์ 3 คน

โดยกลุ่มฮามาส (Hamas) ยืนยันว่า 1 ในผู้เสียชีวิตจาการถูกสังหารในโรงพยาบาล "อิบน์ ซีนา" เป็นสมาชิกของกลุ่มตน ส่วนอีก 2 คน กลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Islamic Jihad) ยืนยันว่าเป็นสมาชิกของกลุ่ม และทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ซึ่ง 1 ในสองพี่น้องนอนรักษาตัวด้วยอาการอัมพาต ขณะที่ แพทย์ของโรงพยาบาล "อิบน์ ซีนา" เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่าชายทั้ง 3 คน ถูกสังหารอย่างเลือดเย็น ขณะพวกเขานอนหลับอยู่ในห้อง โดยถูกยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ

กองทัพอิสราเอล ได้ออกมายืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้สังหารกลุ่มติดอาวุธ 3 คน ซึ่ง 1 ในผู้ที่ถูกสังหาร เป็นผู้วางแผนโจมตีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุโจมตี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปีที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการเปลี่ยนโรงพยาบาลให้เป็นสนามรบ แต่อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้โรงพยาบาลเหล่านี้กลายเป็นฉากหน้าของการก่อการร้าย

ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ออกมายืนยันการเสียชีวิตดังกล่าว และเรียกร้องให้สหประชาชาติรับประกันการปกป้องสถานพยาบาล โดยระบุว่า อิสราเอลกระทำการสังหารหมู่ครั้งใหม่ในโรงพยาบาล

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังศึกษาข้อเสนอพักรบครั้งใหม่ในฉนวนกาซา และแผนการปล่อยตัวประกัน โดยข้อเสนอนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยรอบแรกจะมีการปล่อยตัวประกันที่เป็นพลเรือนที่ยังคงเหลืออยู่ จากนั้นจะเป็นการปล่อยตัวทหาร และร่างตัวประกันที่เสียชีวิต ตามลำดับ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยถึงระยะเวลาการพักรบที่แน่ชัด