ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ ให้พรรคก้าวไกลยุติยกเลิก ม.112

ข่าวภาคค่ำ - ศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติเป็นเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า นายพิธา และ พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิและเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขอให้เลิกการแสดงความคิดเห็นทุกอย่างที่สื่อความหมายให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  ที่ไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ อันอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต สื่อต่างชาติต่างให้ความสนใจ และมีนักวิเคราะห์ต่างชาติมองว่า อาจทำให้ พรรคก้าวไกล ถูกยุบได้ในอนาคต

ศาล รธน. มีมติเอกฉันท์ ให้พรรคก้าวไกลยุติยกเลิก ม.112
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ วินิจฉัยว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่หนึ่ง และพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่สอง เป็นการใช้สิทธิ หรือ เสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่ง และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย

หลังจากศาลฯ วินิจฉัยเสร็จสิ้น สส.พรรคก้าวไกล ที่รวมตัวฟังคำวินิจฉัยอยู่ที่อาคารรัฐสภา เปิดแถลงข่าวทันที พร้อมยืนยันว่าบริสุทธ์ใจไม่มีวาระซ่อนเร้น และกังวลการนิยามของระบอบประชาธิปไตย พร้อมกับขอบเขตระหว่างนิติบัญญัติกับศาลรัฐธรรมนูญว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้

สื่อต่างชาติรายงาน ศาลฯ ชี้ พรรคก้าวไกลล้มล้างการปกครอง 
สำนักข่าวต่างชาติหลายสำนัก อาทิ ซีเอ็นเอ็น (CNN), รอยเตอร์ส (Reuters), บีบีซี (BBC) และ นิกเคอิเอเชีย (Nikkei Asia) ต่างรายงานข่าวศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นโยบายหาเสียงของ พรรคก้าวไกล เข้าข่าย "ล้มล้างการปกครอง"

โดย สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐฯ รายงานว่า ศาลฯ วินิจฉัยให้ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งด้วยเก้าอี้มากที่สุด ละเมิดรัฐธรรมนูญจากการรณรงค์แก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และนักวิเคราะห์มองว่า จะเป็นการเปิดประตูให้มีการดำเนินคดีเพิ่มเติม ซึ่งท้ายที่สุดอาจทำให้ พรรคก้าวไกล ถูกยุบ และแกนนำพรรคอาจถูกดำเนินคดีทางอาญาต่อไป เช่นเดียวกับ สำนักข่าวบีบีซี ของอังกฤษ ที่รายงานว่า พรรคก้าวไกล อาจถูกยุบในอนาคต