สาวร้อง อ.ถอนคุณไสย จับหน้าอก-ล้วงของลับ

เช้านี้ที่หมอชิต - ช่วงนี้มีมาบ่อย ๆ กับคนที่เชื่อหมอผีไสยศาสตร์ แต่โดนลวงไปจับของลับ ของสงวน ล่าสุดมีสาวไปร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกหมอถอนคุณไสยชื่อดัง ทำอนาจารจับของลับ อ้างถอนคุณไสยมนต์ดำ และบริการเสริมเสน่ห์ให้ด้วย

นางสาวผึ้ง (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี เข้าร้องเรียนผ่านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังถูกหมอถอนคุณไสยชื่อดัง ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง อนาจารล้วงจับของลับ อ้างเป็นการถอนคุณไสยมนต์ดำ และต่อมาเจ้าหน้าที่เพจสายไหมต้องรอด ได้พาผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองหลวง

ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองก็เป็นหมอดู แต่เป็นหมอดูไพ่ยิบซี ปีที่แล้วมีคนทักว่าโดนของ จึงเปิดเฟซบุ๊ก หาหมอแก้คุณไสย์ จนเจอหมอดูคนดังกล่าว ดูน่าเชื่อถือ และที่สำคัญเห็นเขาเคยไปออกรายการทีวีด้วย ก็เลยตัดสินใจเดินทางไปแก้คุณไสย เมื่อไปถึงสำนักของหมอดูคนนี้ ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ ย่านตลาดไท จังหวัดปทุมธานี ทางหมอดูก็พาขึ้นไปทำพิธีบนชั้นสอง ในช่วงทำพิธีก็มีการทำหุ่นแล้วก็ตัดเล็บ ตัดผม เอาไปยัดไว้ในหุ่น ก่อนที่จะให้ตนเองนอนลงแล้วนำหุ่นที่ทำพิธีมากดตามตัว รวมถึงหน้าอกและอวัยวะเพศ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นขั้นตอนในการทำพิธี

หลังจากที่ทำพิธีเสร็จแล้ว ก็ได้มีการชักชวนไปกินข้าว โดยระหว่างเดินทางกลับ หมอดูคนดังกล่าวบอกว่าจะเสริมเสน่ห์ให้ ก่อนที่จะได้ยื่นมือมาจับที่หน้าอกทั้งสองข้าง และล้วงจับที่อวัยวะเพศ พร้อมกระซิบที่ข้างหูบอกว่า "เทวดา ผีสาง นางไม้ ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียฉัน อย่ามายุ่ง"

ผู้เสียหายรายนี้บอกว่า ตอนนั้นตนเองอยากจะลงจากรถ แต่ก็กลัวอันตราย จึงรอกลับไปถึงสำนักหมอดูคนนี้ แล้วหนีกลับบ้าน ก่อนตัดสินใจร้องเพจสายไหมต้องรอด และเข้าแจ้งความ เพราะพฤติกรรมหมอดูคนนี้เป็นภัยต่อสังคม

"อ.โอ๋" โต้ โดนแบล็กเมล์ ลั่น แจ้งความกลับ 
ล่าสุดช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ หมอดูที่ถูกกล่าวหา ชื่อ อาจารย์โอ๋ เดินทางเข้าพบตำรวจ สภ.คลองหลวง โดยอาจารย์โอ๋ โต้กลับว่า ตนไม่ได้ล่วงละเมิดผู้หญิงคนดังกล่าว หากตนทำจริงแล้วทำไมยังยอมไปกินข้าวกับตน และทำไมไม่แจ้งความตั้งแต่คืนนั้นเลย มองว่าหญิงคู่กรณี น่าจะแบล็กเมล์ เพราะต้องการอะไรบางอย่างจากตน พร้อมบอก "เดี๋ยวจะแจ้งความกลับ"

ทางพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง บอกว่า ขั้นตอนอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหา หากพบกระทำผิดจริงก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนทาง อาจารย์โอ๋ หากแจ้งความกลับ ก็สามารถกระทำได้ตามสิทธิ์ทางกฎหมายเช่นกัน