ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

จับครบทีมอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน อายุ 33 ปี

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมหนุ่มโรงงาน อายุ 33 ปี ถูกมัดมือมัดเท้า นำศพไปทิ้งไว้เลียบถนนมอเตอร์เวย์ ตำรวจจับผู้ร่วมก่อเหตุได้ยกทีมแล้ว

สำหรับ นายกิตติโชติ หรือ ช่างกิต บางบ่อ ถือเป็นผู้ต้องหาคนแรกที่ตำรวจได้ขอศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ออกหมายจับ และตามควบคุมได้เมื่อกลางดึกวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง แต่อ้างว่าไม่ได้วางแผนล่วงหน้า โดยช่วงเย็นวันเกิดเหตุได้โทรศัพท์นัดลูกทีมให้มาหาตอน 21.00 น. บอกว่าจะไปทำธุระ จากนั้นขับรถยนต์พาไปจอดแถวบ้านผู้เสียชีวิต ถึงบอกลูกทีมว่า ผู้เสียชีวิตยืมรถจักรยานยนต์ไปแล้วไม่คืน ต้องตามมาเอารถคืน โดยจอดรถรอเวลากระทั่งเห็นผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน จึงขับรถตามประกบบังคับอุ้มตัวขึ้นรถพาไปก่อเหตุ แล้วทิ้งศพไว้บริเวณเลียบถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงกิโลเมตรที่ 41 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

ส่วนปมสาเหตุมาจากความแค้นที่ถูกฝ่ายหญิงหลอกว่าโสด และพักอยู่กับพ่อ ต่อมาจับได้ว่าฝ่ายหญิงมีสามีอยู่แล้ว ฝ่ายหญิงก็อ้างว่าจะเลิกกับสามี แต่สามีไม่ยอมเลิก ประกอบกับตนรักฝ่ายหญิงมาก จึงก่อเหตุไปเพียงเพราะต้องการครอบครองฝ่ายหญิงเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ต้องหายืนยันว่าฝ่ายหญิงไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ ทั้งสิ้น

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา นายกิตติโชติ 4 ข้อหา คือ ปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าฯ, ซ่อนเร้นอำพรางศพฯ และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การยอมรับสารภาพ และเผยมูลเหตุจูงใจ แต่ก็เป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ต้องรอการสอบสวนของตำรวจเพื่อความชัดเจนอีกครั้ง

ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลือ 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน ผลปรากฏว่าระหว่างตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุม ทั้งหมดทนแรงกดดันไม่ไหว ติดต่อขอเข้ามอบตัว โดยให้การรับสารภาพ และนำชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำ ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยจากพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายทั้งหมด กระทำความผิดหลายข้อหาหนัก ทั้งปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต

อย่างไรก็ตามในส่วนการค้นหาหลักฐาน ตำรวจยังดำเนินต่อเพื่อหาความเชื่อมโยงของคดี โดยเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ส่งชุดประดาน้ำลงงมหาอาวุธปืนและรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต ที่นำมาทิ้งลงคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งพบรถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ที่ถูกกลุ่มผู้ต้องหาช่วยกันชำแหละแล้วนำมาโยนทิ้งน้ำ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยังหาไม่พบ

ส่วนรถยนต์สีแดงที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อมิตซูบิซิ รุ่นมิราจ ตรวจยึดได้ที่ลานจอดรถในพื้นที่ตำบลบางเสาธง ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บลายนิ้วมือทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งเก็บเส้นผมที่ตกอยู่ภายในรถไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้าย โดยเบาะหลังพบว่ามีการนำกระบะใส่เครื่องมือช่างมาวางเอาไว้ จึงทำการตรวจสอบลายนิ้วมือทั้งหมด

ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางประกง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำหมายศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นบ้านภรรยาผู้เสียชีวิต อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมกับเผยว่าขณะนี้พยานหลักฐานไปไม่ถึงว่ามีส่วนรู้เห็น โดยภรรยาผู้เสียชีวิตยืนยันความบริสุทธิ์ตัวเองว่า เธอไม่เกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมสามี และพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจในการตรวจค้นทุกอย่าง หลังจากทราบว่า นายกิต เป็นผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่าตกใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ขนาดนี้ ส่วนนิสัยใจคอลึก ๆ ของนายกิต เป็นคนแบบไหนนั้น เธอไม่ทราบ เพราะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark