ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ตีนแมวปีนรั้วลักทรัพย์ ถูกเจ้าของร้านยิงเสียชีวิต

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เจ้าของร้านรับซื้อของเก่ายิงขโมยเสียชีวิต ขณะปืนรั้วเข้ามาขโมยของภายในร้าน

ตีนแมวปีนรั้วลักทรัพย์ ถูกเจ้าของร้านยิงเสียชีวิต
ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ในตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ คนร้าย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ มาด้วยกัน 2 คัน ก่อนคนร้าย 2 คนจะเดินเข้าไปในร้านรับซื้อของเก่า เพื่อลักทรัพย์ แต่ถูกเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ยิงคนร้ายเข้าที่หลังได้รับบาดเจ็บได้รับบาดเจ็บ 1 คน ก่อนวิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ของผู้ร่วมก่อเหตุ ที่จอดรออยู่ไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว แต่คนร้ายที่ถูกยิงได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

หลังเกิดเหตุตำรวจสภ.บางแก้ว สามารถจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 23 ปี ผู้ร่วมก่อเหตุได้ 1 คน และจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิต คือนายณัฐวุฒิ อายุ 32 ปี ส่วนคนร้ายอีก 2 คนหลบหนีไปได้

จากการสอบถามภรรยาเจ้าของร้าน ชาวเมียนมา เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและนายพงศ์วรินทร์ สามี อายุ 29 ปี พักอยู่ในร้านด้านหลัง และสามีกำลังนั่งดูกล้องวงจรปิดภายในร้าน เพื่อตรวจความเรียบร้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้ มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ภายในร้านหลายครั้ง และเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืน ได้มีคนร้ายจำนวน 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดที่ริมรั้วข้างร้าน จากนั้นคนร้าย 2 คน เดินมาทางข้างร้าน และหนึ่งใน 2 คน ปีนประตูรั้วเข้ามาภายในร้าน สามีเห็นจึง ถือปืนออกมาและถามว่าใครเข้ามาทำไม แต่คนร้ายไม่ตอบ พร้อมทั้งพยายามวิ่งหนี สามีจึงยิงปืนใส่ไป 1 นัด แต่คนร้ายได้ปีนประตูรั้วกลับออกไป เพื่อขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนี สามีจึงวิ่งตามออกไปหน้าประตูและยิงปืนใส่อีก 2 นัด แต่ไม่รู้ว่าโดนคนร้ายตอนไหน หลังเกิดเหตุจึงโทรแจ้งตำรวจทันที และมาทราบว่าคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม บอกว่าจากกรณีเจ้าของร้าน ตามมายิงคนร้ายซ้ำกระสุนเข้าที่ด้านหลัง อาจเข้าข่ายความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากในขณะนั้นคนร้ายได้พยายามวิ่งหนีแล้ว ภัยอันตรายมันผ่านไปแล้ว และไม่ได้มาถึงตัวเจ้าของร้านแล้ว จึงอาจทำให้เชื่อได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่เกิดกว่าเหตุ อาจจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นายพงศ์วรินทร์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ พยายามฆ่าผู้อื่น และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายณรงค์ฤทธิ์ ผู้ร่วมก่อเหตุ ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน พร้อมทั้งเร่งติดตามจับกุมคนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนีไปได้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สั่งไม่ฟ้อง ยิงคนร้ายปล้นร้านทอง 
ทีนี้เราจะย้อนไปดูเหตุการณ์ปล้นร้านทอง เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ปี2565  คนร้าย 4 คน พกอาวุธปืนยิงเข้าไปปล้นร้านทอง แต่ถูกเจ้าของร้านทองใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัว ส่งผลให้คนร้ายบาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ถูกจับกุมอีก 1 คน และตามจับกุมได้ในภายหลังอีก 2 คน  ในพื้นที่อำเภอเมืองตาก   กลายเป็นประเด็นข้อถกเถียงว่า กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมาวันที่ 6 ตุลาคม ปี 2566 พนักงานอัยการ มีคำสั่งไม่ฟ้อง ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น โดยให้เหตุผลว่า

- มีเหตุจำต้องกระทำเพื่อสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันอันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
- ยิงขึ้นเพดานร้านเพื่อขู่ คนร้ายทั้ง 4 คน จึงได้วิ่งหลบหนีออกมาจากร้าน
- คนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในร้านอีก การที่ใช้อาวุธปืนยิงไปยังคนร้ายที่ยังคงอยู่บริเวณหน้าร้าน เพราะคนร้ายมีจำนวนมากกว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลความปลอดภัย
- เพื่อป้องกันชีวิตของตนและภรรยาซึ่งอยู่ในร้านรวมทั้งป้องกันทรัพย์สินจำนวนมาก จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันชีวิตของตนเอง ภรรยา และเป็นภัยที่ใกล้จะถึง
- จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง เจ้าของร้านทอง ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น

ก็ต้องดูว่าเหตุการณ์ที่จังหวัดสมุทรปราการ พนักงานสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการ จะพิจารณาสั่งฟ้องว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark