เจ้าของบ้าน เชื่อหลักฐานแน่น ไม่หวั่นเสียบ้าน

เจาะประเด็นข่าว 7HD - คืบหน้าคดีเพื่อนบ้านเข้ายึดบ้านของเจ้าของตัวจริง โดยอ้างสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ตามกฎหมาย ก็ยังยืดเยื้อ แต่ทั้งเจ้าของบ้านตัวจริง และทนายความ มั่นใจ จะสู้คดีจนนำบ้านกลับคืนมาได้

ก่อนอื่นย้อนไปสักนิด ราว ๆ 30 ปีที่แล้ว มีอากู๋คนหนึ่ง ซื้อบ้านหลังหนึ่งย่านรามอินทรา 58 แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่เลย กระทั่งหลานแต่งงาน จึงจะยกบ้านหลังนี้ให้ แต่พอหลานกับแฟนไปบ้านหลังดังกล่าว กลายเป็นบ้านของคนอื่นเสียแล้ว

นำมาสู่การแจ้งความข้อหาบุกรุก และเจราจาให้ออกจากบ้าน ซึ่งตอนแรกผู้บุกรุกก็ยอมออก และก็มีการพูดถึงประเด็นการซื้อขายบ้านหลังนี้กัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้บุกรุกก็กลับมาอยู่และต่อเติมครัวด้านหลัง พร้อมยังไปยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งมีนบุรี

โดยแสดงกรรมสิทธิ์การครอบครองปรปักษ์ กับเจ้าของเดิม จากนั้นก็ย้ายของในบ้านต้นเรื่องกลับมาที่บ้านตนเอง ก่อนเผยถึงเหตุผลที่ขนของกลับว่า มาจากสื่อมวลชนติดตามทำข่าวจนเกิดความรำคาญใจ

ทีมข่าวตรวจสอบกับเจ้าของบ้านเดิม หรือ ผู้เสียหาย ก็ยอมรับว่าคู่กรณีมาเจรจาจริง ๆ เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ตอนนั้นตั้งราคาขายบ้านไว้ที่ 5 ล้านบาท ถ้าต่ำกว่านี้ไม่ขาย จึงทำให้การเจรจาล่ม เพราะอีกฝ่ายมีเงินไม่ถึง ส่วนทางคดีความ ก็เชื่อว่ามีหลักฐานหนาแน่น ในการนำบ้านหลังนี้คืนกลับมาได้อย่างแน่นอน

ด้าน ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ชี้แจงว่า ในกรณีนี้ทั้ง 2 ฝ่าย เคยทำบันทึกข้อตกลงกันแล้ว เป็นเหตุให้ผู้แอบอ้างสิทธิ ย้ายของออกไป แต่จู่ ๆ กลับเข้ามาอีก จึงเข้าข่ายบุกรุกพื้นที่อย่างชัดเจน และกรณีนี้ผู้บุกรุกจะอ้างการครอบครองปรปักษ์ก็ไม่ได้ เนื่องจากประวัติการเข้าอยู่อาศัยมีเพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น ไม่ใช่ 10 ปี ตามที่กล้าวอ้าง อีกทั้งไม่มีเครื่องเรือนพร้อมอยู่อาศัย แม้แต่น้ำ ไฟฟ้า ก็ยังไม่มี จึงมั่นใจว่าจะชนะคดีนี้อย่างแน่นอน